นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ให้การต้อนรับ ดร.ซก ซกกรัดทะยา (Dr. SOK SOKRETHYA) ที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ทำหน้าที่ผู้แทนนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชาในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย
นางสาวตรีนุชกล่าวว่า ได้มีการหารือแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่าง 2 ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอาชีวศึกษา ซึ่งที่ผ่านมามีโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาด้านการศึกษา ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระราชทานเงินเพื่อก่อสร้างวิทยาลัยกำปงเฌอเตียล ที่จังหวัดกำปงธม (Kampong Thom)
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนและครูจากจังหวัดกำปงธม และจังหวัดกำปงสปือ (Kampong Speu) เพื่อมาศึกษาต่อที่ประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงน้ำพระราชหฤทัยที่จะตอบแทนไมตรีจิตของชาวกัมพูชา ด้วยการให้ของขวัญที่ยั่งยืนแก่ชาวกัมพูชา นั่นคือการศึกษา และยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตรที่ดีต่อกันของประชาชนทั้งสองประเทศ
รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า กระทรวงศึกษาธิการไทยให้ความสำคัญกับสิทธิในการได้รับการศึกษาของนักเรียนทุกคน โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเด็กไทยเท่านั้น เพราะสิทธิดังกล่าวถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งประเทศไทยได้ให้การรับรองตามกฎหมายผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 ที่ขยายโอกาสทางการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย สามารถเข้าเรียนในสถานศึกษาของไทยได้ ซึ่งเดิมจำกัดไว้ให้เฉพาะบางกลุ่ม
"นอกจากการดูแลด้านการศึกษาแล้ว ด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ ศธ.ได้เฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องของวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่จะมีการฉีดให้ทั้งครูและนักเรียนอย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึงนักเรียนชาวกัมพูชาและนักเรียนต่างชาติอื่นๆ ที่ศึกษาอยู่ในประเทศไทยด้วย"
ด้าน ดร.ซก ซกกรัดทะยา กล่าวว่า ขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการไทยที่ได้ให้การดูแลนักเรียนชาวกัมพูชาที่ศึกษาอยู่ในประเทศไทย ทั้งแบบประจำ และไป-กลับเป็นอย่างดี ทั้งด้านคุณภาพการศึกษาและสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมทั้งได้หารือกันถึงแนวทางความเป็นไปได้ที่จะแสวงหาความร่วมมือผ่านโครงการด้านการศึกษาระหว่างไทย-กัมพูชาในอนาคตด้วย
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)