ธ.ออมสินปล่อยกู้ลดหนี้ครู 2 ยุค'ก.ย.59','มิ.ย.65' กับข้อสังเกต"ฤาตีปลาหน้าไซ?"

เปรียบเทียบโครงการ ธ.ออมสินปล่อยกู้ลดภาระหนี้ ขรก.ครูฯ 2 ยุค

"ก.ย.59","มิ.ย.65"

กับข้อสังเกต "ฤาตีปลาหน้าไซ?"

 

สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com ได้รับการเปิดเผยจากนายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (ผอ.สกสค.) จังหวัดชัยภูมิ และอดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จ.ชัยภูมิ เกี่ยวกับข้อมูลเอกสารบันทึกข้อตกลงโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่จัดทำขึ้น ณ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2559 ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. โดยนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. กับธนาคารออมสิน โดยนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน 

ทั้งนี้ นายสานิตย์ต้องการให้เป็นประโยชน์แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นลูกหนึ้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของธนาคารออมสินและสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. เมื่อได้นำไปเปรียบเทียบกับโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในปี 2565 ของธนาคารออมสิน โดยมีสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.ไปร่วมเป็นหน่วยงานบริการ

ให้ติดต่อขอรับ "แบบคำขอกู้และรับรองสิทธิ โครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา" ของธนาคารออมสิน ทั้งที่สำนักงาน สกสค.จังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการจัดเตรียมเอกสารหนังสือยินยอมให้หักเงินสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค. และอาจรวมถึงกรณีผู้กู้ถึงแก่กรรม สำนักงานจะต้องส่งเงินสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค.ตามจำนวนเงินที่ผู้กู้มีหนี้ค้างชำระตามจำนวนเงินที่ได้รับแจ้งจากธนาคาร แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ระบุไว้ในหนังสือยินยอมให้หักสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค.

ตามรายละเอียดที่ปรากฏในลิงก์ข่าวการเงิน "ออมสิน ปล่อยกู้ 700,000 ลดภาระหนี้ข้าราชการครู ผ่อน 20 ปี" ของเว็บไซต์ https://money.kapook.com/ ที่ได้รายงานข่าวนี้ว่า วันที่ 20 มิถุนายน 2565 ธนาคารออมสินออกสินเชื่อหน่วยงานภาครัฐ สำหรับสินเชื่อโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พร้อมมอบวงเงินกู้ให้สูงถึง 700,000 บาท โดยมีรายละเอียดเงื่อนไขดังนี้

คุณสมบัติผู้กู้

- ณ วันที่ยื่นกู้ต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป - ณ วันที่ยื่นกู้ต้องเป็นสมาชิก ช.พ.ค. และเป็นผู้กู้เงินสินเชื่อโครงการ ช.พ.ค.ของธนาคารอยู่ก่อนโครงการนี้ กรณีมีหนี้ค้างชำระต้องชำระหนี้ค้างชำระทั้งหมด หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในคราวเดียวกัน - ต้องไม่ค้างชำระเงินสงเคราะห์รายศพรายเดือน - ต้องระบุชื่อผู้มีสิทธิรับเงิน ช.พ.ค.ให้เรียบร้อยก่อนยื่นคำขอกู้

วัตถุประสงค์การกู้เงิน

- เพื่อชำระหนี้เงินกู้สินเชื่อโครงการ ช.พ.ค.เดิม -เพื่อชำระดอกเบี้ยเงินกู้รายเดือน

ประเภทเงินกู้

- เงินเบิกเกินบัญชี

จำนวนเงินให้กู้

- รายละ 700,000 บาท

อัตราดอกเบี้ย

- เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

ระยะเวลาการให้กู้

- ระยะเวลาการใช้วงเงินไม่เกิน 20 ปี

หลักประกันการกู้เงิน

- สิทธิการรับเงินสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค.

เงื่อนไขการชำระเงินกู้

- ในระหว่างที่สัญญากู้เงินยังไม่ครบกำหนด ธนาคารจะดำเนินการรับชำระดอกเบี้ยเงินกู้รายเดือนจากวงเงินเบิกเกินบัญชี ทั้งนี้ ผู้กู้สามารถส่งชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นได้ โดยนำเงินฝากเข้าบัญชีกระแสรายวันของตนเองที่เปิดไว้สำหรับโครงการนี้

- กรณีผู้กู้ถึงแก่กรรม สำนักงาน...จะส่งเงินสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค.ตามจำนวนเงินที่ผู้กู้มีหนี้ค้างชำระตามจำนวนเงินที่ได้รับแจ้งจากธนาคาร แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ระบุไว้ในหนังสือยินยอมให้หักสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค.

เอกสารประกอบการขอกู้ ดังนี้

ติดต่อขอรับ "แบบคำขอกู้และรับรองสิทธิ โครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา" ที่สาขา/สำนักงาน/สำนักงาน สกสค.จังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการจัดเตรียมเอกสาร ดังนี้ - หนังสือยินยอมให้หักเงินสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค. - แบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน - บัญชีวางแผนการใช้จ่าย 

- หลักฐานประกอบคำขอกู้สำหรับสมาชิก ช.พ.ค. (ผู้กู้) - สำเนาบัตรข้าราชการ/บัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้/คู่สมรส - สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้/คู่สมรส - สำเนาใบสำคัญการสมรส/ใบสำคัญการหย่า/ใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล/ทะเบียนการรับรองบุตร (ถ้ามี) - ใบสำคัญการจ่ายเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน

- หลักฐานของผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวประกอบคำขอกู้ของสมาชิก ช.พ.ค. (ผู้กู้) - สำเนาบัตรข้าราชการ/บัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้ - สำเนาทะเบียนบ้าน - สำเนาใบสำคัญการสมรส/ใบสำคัญการหย่า/ใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล (ถ้ามี)

ค่าธรรมเนียม

- ยกเว้น ค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อยกเว้น ค่าธรรมเนียมการชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนด

เงื่อนไขอื่น

- เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

นายสานิตย์ นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ อดีต ผอ.สกสค.จังหวัดชัยภูมิ 4 วาระ และอดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จ.ชัยภูมิ ยังได้ตั้งข้อสังเกตเพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา และเหล่าผู้มีอำนาจในสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยเฉพาะ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ ศธ.

ได้ขบคิดว่า การจัดโครงการปล่อยเงินกู้โดยอ้างเพื่อลดภาระหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ในภาวะการณ์ดอกเบี้ยขาลง ดอกเบี้ยถูกลง ตลอดช่วงหลายปีมานี้ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่การลดภาระหนี้สินของครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยแท้จริงหรือไม่?

หรืออาจจะส่อเข้าข่ายคล้ายเอารัดเอาเปรียบซ้ำเติมภาระหนี้สินของครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่อาจกำลังดำเนินไปด้วยดี โดยอาจจะได้รับการปรับลดดอกเบี้ยต่ำลงเรื่อยๆ ตามภาวะการณ์ "ดอกเบี้ยขาลง" หรือไม่? เข้าทำนอง "ตีปลาหน้าไซ" หรือไม่?

ทั้งนี้ นายสานิตย์ นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ อดีต ผอ.สกสค.จังหวัดชัยภูมิ 4 วาระ และอดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จ.ชัยภูมิ ยังจะนำข้อสังเกต "ตีปลาหน้าไซ" ดังกล่าว ทำหนังสือร้องเรียนเพิ่มเติมไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.), น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ ศธ., นายนพคุณ รัฐผไท ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร และนายตวง อันทะไชย ประธาน กมธ.การศึกษา วุฒิสภา

เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นข้อสังเกตนี้ด้วย

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)