“ม.วลัยลักษณ์”จัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ 2561 ชู!วัฒนธรรมไร้พรมแดน

ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นประธานแถลงข่าวจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ 2561 ที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีเป้าหมายในการก้าวสู่ความเป็นนานาชาติ โดยเริ่มจากปฏิรูปการเรียนการสอนโดยนำมาตรฐาน UKPSF (UNITED KINGDOM PROFESSIONAL STANDARDS FRAMEWORK) มาใช้ ให้ความสำคัญกับการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษของนักศึกษา

มีการจัดตั้ง “สถาบันภาษา” เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะสากลให้แก่นักศึกษา สนับสนุนให้นักศึกษาไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษาในต่างประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมวัฒนธรรมสู่สากล โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยได้ริเริ่มจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติเป็นครั้งแรก ได้รับความสนใจจากนักศึกษานานาชาติจาก 21 ประเทศ จำนวน 110 เข้าร่วมคน และมีเป้าหมายที่จะจัดกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง

โดยในปี 2561 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 -23 มิถุนายน 2561 มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมไร้พรมแดน” เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติได้มารู้จักวัฒนธรรมไทย อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของชาติ และกลายเป็นทูตวัฒนธรรมที่จะช่วยในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปสู่สากลต่อไป

ในขณะเดียวกันนักศึกษาไทยที่เข้าร่วมโครงการก็จะมีโอกาสสร้างเครือข่ายกับนักศึกษาต่างชาติจากนานาประเทศทั่วโลก และเพิ่มพูนประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง ที่สำคัญโครงการค่ายฯ ยังตอบสนองกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเมืองรองให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชถือเป็น 1 ใน 55 จังหวัดเมืองรองของประเทศไทย

ด้าน ผศ.ดร.พงศธร เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้กำกับดูแลฝ่ายภายในศูนย์กิจการนานาชาติ ในฐานะผู้อำนวยการโครงการค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ กล่าวเสริมว่า ในปีนี้มีนักศึกษาให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯกว่า 750 คน จาก 300 มหาวิทยาลัย จาก 50 ประเทศ และ 5 ทวีปทั่วโลก และมีการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดจำนวน 100 คน จาก 33 ประเทศ 5 ทวีป เข้าร่วมค่ายกับนักศึกษาไทยอีกจำนวน 60 คน รวมจำนวน 160 คน เป็นระยะเวลา 8 วัน 

ระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2561 ที่อยู่ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์จะมีการแสดงวัฒนธรรมประจำชาติจากนักศึกษาทุกชาติจำนวน 25 ชุด นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะมีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ คือ ทำอาหารไทย ต่อยมวยไทย รำไทย และดนตรีไทย ตลอดจนกิจกรรมร่วมกับชุมชนทำความสะอาดชายหาดที่ขนอม พร้อมการศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองนครศรีธรรมราช เยี่ยมชมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ล่องเรือเยี่ยมชมลุ่มน้ำปากพนัง

รวมถึงการเดินทางโดยรถไฟไปยังกรุงเทพมหานคร โดยระหว่างวันที่ 21-23 มิถุนายน 2561 ที่กรุงเทพฯ นักศึกษาจะมีโอกาสเยี่ยมชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระบรมมหาราชวัง รวมถึงการเข้าคาราวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และในพิธีปิดค่ายฯนักศึกษาจะร่วมกันแสดงชุด “CULTURES WITHOUT BORDERS” ซึ่งจะเป็นการผสมผสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของแต่ละชาติเข้าด้วยกัน

“วัตถุประสงค์สำคัญประการหนึ่งของการจัดโครงการค่ายฯคือ การพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองโลก ผู้ยอมรับในความแตกต่างทางวัฒนธรรม สีผิว และ ความเชื่อ ของพลเมืองแต่ละประเทศ และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาสังคมโลกให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง” ผศ.ดร.พงศธรกล่าว