สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) บริษัท น้ำตาลวังขนาย จำกัด และบริษัทในกลุ่มวังขนาย จัดพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อจัดตั้งสถานศึกษาอาชีวศึกษาที่มีความเป็นเลิศเฉพาะด้าน ในระบบทวิภาคี ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานด้านอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย

โดยมี นายวณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายอารีย์ ชุ้นฟุ้ง ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มวังขนาย และนายวัชรา ณ วังขนาย รองประธานกรรมการ กลุ่มวังขนาย ร่วมลงนาม ณ ห้องประชุม 5 สอศ. เมื่อเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ นายวณิชย์ กล่าวว่า สอศ.ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาแรงงานด้านอุตสาหกรรม เพื่อตอบโจทย์ประเทศในด้านแรงงานให้เพียงพอกับความต้องการ โดย สอศ.ได้ร่วมกับกลุ่มวังขนาย จัดตั้งสถานศึกษาอาชีวศึกษาที่มีความเป็นเลิศเฉพาะด้านตามนโยบายรัฐบาล ให้มีความเป็นเลิศในด้านวิชาการทั้งภาคทฤษฎี และทักษะในการปฏิบัติ ตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ขึ้นไป

เป็นการจัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคี ผลิตนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา ให้เกิดความชำนาญด้านวิชาชีพในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย นับว่าเป็นการสร้างโอกาสแก่นักเรียน นักศึกษาให้เกิดองค์ความรู้ เพิ่มทักษะวิชาชีพ โดยมีการฝึกอาชีพตามหลักสูตรและการฝึกปฎิบัติจริง จากภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคบริการ รวมทั้งทักษะทางภาษา

นอกจากนี้ ยังพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา และครูฝึกในสถานประกอบการให้มีความรู้ ตลอดจนได้ปฏิบัติงานจริง และได้พัฒนาตนเองให้ทันเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ

รองเลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อว่า การทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการจัดการศึกษาร่วมกัน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติ ซึ่งมีการร่วมจัดทำและพัฒนาหลักสูตรด้านเทคโนโลยีการผลิตและการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย และสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการพัฒนานักเรียน นักศึกษา และกำลังคนด้านต่างๆ เพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และภาคบริการ ในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย

สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกัน ทำให้เกิดความเป็นเลิศเฉพาะด้านที่เป็นความต้องการของตลาดแรงงานด้านอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ให้มีความเข้มแข็ง และมีคุณภาพ รวมถึงเพื่อเป็นการพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมภาพรวมของประเทศต่อไป

“ทั้งนี้ กลุ่มวังขนาย ได้บริจาคที่ดินให้กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อจัดตั้งสถานศึกษาอาชีวศึกษา จำนวน 29 ไร่ 3 งาน 47 ตารางวา ในเขตอำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี”

ด้านนายอารีย์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มวังขนาย กล่าวเสริมว่า คาดว่าความร่วมมือในการจัดตั้งวิทยาลัยครั้งนี้ จะจัดการเรียนการสอนในเบื้องต้น จำนวน 4 สาขาวิชา ได้แก่ 1.สาขาเทคโนโลยีการผลิตอ้อย (เน้นอ้อยอินทรีย์) 2.สาขาการบริหารจัดการระบบโลจิสติค 3.สาขาเทคโนโลยีการผลิตน้ำตาล และ 4.สาขาเทคโนโลยีชีวมวล

"ซึ่งจะเป็นการขยายจำนวนบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมอ้อย และน้ำตาลทรายของประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการผลิตอ้อยออร์แกนิค ซึ่งทางกลุ่มวังขนายมีความเชี่ยวชาญ และเป็นบริษัทเดียวที่ผลิตอ้อยออร์แกนิคได้ในประเทศไทย"