คุรุสภา มอบรางวัลครูสถิรคุณ 7 ราย
เสียสละช่วยเหลือนักเรียนในภาวะคับขัน
พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า กรณีโศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี มีผู้เสียชีวิต 23 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่ก่อให้เกิดความเสียใจแก่ทุกฝ่าย ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้มีการพิจารณารางวัลครูสถิรคุณเพื่อยกย่องครูที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์นี้ 7 ราย ได้แก่
1.นางสาวกนกวรรณ ศรีผง วิชาชีพครู (เสียชีวิต)
2.นางสาวพิมพ์ทอง สมบัติ วิชาชีพครู (เสียชีวิต)
3.นางสาวพรประภา อุปการจันทร์โรจน์ วิชาชีพครู
4.นางสาวธารทิพย์ ศรีทอง วิชาชีพครู
5.นางสาวกุลภรณ์ แข็งธัญกิจ วิชาชีพครู
6.นางสาวพรประภา อั๋นดอนกลอย วิชาชีพครู
7.นางสาวราตรี โพธิ์ศรี วิชาชีพเจ้าหน้าที่ธุรการ
โดยทั้งหมดเป็นบุคคลที่เสียสละช่วยเหลือนักเรียนในภาวะคับขัน และเสี่ยงภัยจากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567
รางวัลครูถิรคุณ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2565 โดย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ “ นางสาวตรีนุช เทียนทอง” ลงนามในประกาศคุรุสภา เรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการประกาศเกียรติคุณยกย่องครูผู้เสียสละ และมีอุดมการณ์ในวิชาชีพ เพื่อรับ “รางวัลครูถิรคุณ” มีความหมายว่า “ครูผู้ยึดมั่นในคุณธรรมอย่างมั่นคง” โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก พิจารณาจาก
1. เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ มีอุดมการณ์ มีจิตวิญญาณ รักและศรัทธาในวิชาชีพ จนเป็นที่ประจักษ์
2. เป็นผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน
3. เป็นผู้ที่ประพฤติและปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีงาม ทั้งกาย วาจา ใจแก่เพื่อนครู และผู้เรียน
4. เป็นผู้ได้รับความเชื่อถือศรัทธา ยกย่อง ยอมรับของผู้เรียน เพื่อนครูและสังคม ว่าเป็นต้นแบบของผู้มีจิตวิญญาณความเป็นครู เป็นแบบอย่างที่ดี และสร้างค่านิยมให้สังคมยอมรับ
5. เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ หรือประกอบวิชาชีพในพื้นที่ที่มีชุมชนและสังคมที่มีความแตกต่างทั้งทางภาษาและวัฒนธรรม หรือในพื้นที่เสี่ยงภัย หรือทุรกันดาร รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาภัยสังคมหรือความมั่นคงของชาติ หรือมีความเสี่ยงต่อการปฏิบัติงานอย่างสูงด้วยความเสียสละ และอุตสาหะ เป็นเวลานาน และปรากฏผลงานเป็นแบบอย่างที่ดีด้วยความสม่ำเสมอต่อเนื่อง หรือ
6. เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือประกอบวิชาชีพจนได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายหรือสูญเสียอวัยวะ หรือถึงแก่ชีวิต โดยเหตุเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่หรือในการประกอบวิชาชีพ หรือเพราะเหตุกระทำการ ตามหน้าที่เป็นกรณีพิเศษจนเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติงานในหน้าที่ประจำ หรือเพราะเหตุปฏิบัติตามหน้าที่ หรือได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ เว้นแต่การประสบเหตุนั้นเกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือจากความผิดของตน หรือจากเหตุที่ตนมีส่วนร่วมในการกระทำนั้นด้วย