สอศ.เปิดตัวผลงาน น.ศ.อาชีวะ! 3 สิ่งประดิษฐ์ ช่วยเด็กติดในรถยนต์


ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิค (วท.) ลำปาง วท.นครปฐม และวิทยาลัยสารพัดช่างอุบลราชธานี  จัดแถลงข่าวเปิดตัวอุปกรณ์ป้องกันและช่วยเหลือเด็กติดในรถ ณ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โดยสืบเนื่องจากเกิดเหตุสลดที่ จ.สมุทรปราการ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ถูกลืมไว้อยู่ในร-ถตู้รับส่งนักเรียนนาน 8 ชั่วโมง  จนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต

ข่าวการศึกษา ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวว่า สอศ.เน้นจัดการเรียนการสอนโดยเน้นให้เด็กอาชีวะทำโครงการและคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ และมีกิจกรรมประกวดแข่งขันตั้งแต่ระดับโรงเรียน จังหวัด ภาค จนถึงระดับชาติ โดยได้ตั้งโจทย์พื้นฐานว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการดำรงชีวิตของประชาชน

โดยในช่วง 2-3 ปีนี้ อาชีวะได้ทำสิ่งประดิษฐ์แก้ปัญหาเกี่ยวกับเด็กติดในรถยนต์ โดย วท.ลำปางได้สร้างระบบป้องกันและเตือนภัยขึ้น อาศัยหลักการตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในรถยนต์ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤตประมาณ 30 วินาที ระบบตรวจสอบพบการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต กล่องควบคุมจะสั่งการเปิดประตูรถยนต์ และส่งสัญญาณเตือนภัยในรูปแบบระบบเสียงแจ้งเตือนด้วยไซเรน

และส่งข้อความ SMS ที่ระบุพิกัดสถานที่ด้วย GPS ไปยังโทรศัพท์ ที่ตั้งค่าเอาไว้ก็จะสามารถดูพิกัดสถานที่ได้ทันที

นอกจากนี้ วท.นครปฐมได้ประดิษฐ์ชุดควบคุมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในรถยนต์ ซึ่งเครื่องจะทำงานอัตโนมัติเมื่อพบมีผู้ติดอยู่ในรถ และมีค่าคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 1,000 ppm ซึ่งเป็นค่าที่ทำให้ผู้ติดอยู่ในรถรู้สึกอึดอัด

อีกผลงาน คือเครื่องทำลายกระจกรถยนต์ กรณีรถยนต์ตกน้ำ หรือมีผู้ติดอยู่ในรถ ของวิทยาสารพัดช่างอุบลราชธานี ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวจะติดตั้งไว้ในรถ สามารถยิงทำลายกระจกรถยนต์แบบ Tempered เมื่อกระจกถูกทำลายจะแตกตัวแบบเมล็ดข้าวโพด และหากตกน้ำจะมีอุปกรณ์เสริมเพื่อขอความช่วยเหลือ และจะมีสัญญาณแสดงตำแหน่งที่รถจมอยู่

ทั้งนี้ อุปกรณ์ทั้ง 3 ชิ้นนี้จะมีราคาตั้งแต่ 3,000-25,000 บาท และยังการันตรีว่าอุปกรณ์ทั้ง 3 ชิ้นนี้ เป็นผลงานสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับรางวัลระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับประเทศมาแล้ว ผู้สนใจต้องการอุปกรณ์ดังกล่าว สามารถแจ้งความประสงค์มาได้ที่สำนักงาน สอศ.

ทางด้านนายบัณฑิต พัดเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิตประถม กรุงเทพฯ กล่าวว่า โรงเรียนใช้บริการรถตู้รับส่งเรียนของเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 42 คัน และได้ขอความร่วมมือให้รถทุกคันติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือเด็กที่ติดอยู่ในรถ และวันนี้ก็ได้นำรถของโรงเรียนมาติดตั้งอุปกรณ์ด้วย โดยเลือกติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือเด็กของ วท.ลำปาง