สอศ.เติมเทคโนฯอากาศยานเพื่อการเกษตรบูรณาการนวัตกรรมสูตรความยั่งยืนภายใต้ BCG

วันที่  27 มี.ค. 66   คุณหญิง ดร.กัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงศึกษาธิการ(รมช.ศธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการบรูณาการนวัตกรรมอาชีวศึกษาเกษตร  สูตรความยั่งยืนภายใต้ BCG  โดยกล่าวผ่านเทปบันทึกวิดีทัศน์ โดยมีเรืออากาศโท สมพร ปานดำ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวรายงาน ผู้บริหารสถานศึกษา นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการและบุคลากรอาชีวศึกษา เข้าร่วมการประชุมฯ ระหว่างวันที่ 27 - 28 มีนาคม 2566 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี

คุณหญิง ดร.กัลยา โสภณพนิช  กล่าวว่า ดิฉันมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเทคโนโลยีอากาศยานเพื่อการเกษตรสู่การขับเคลื่อนอาชีวศึกษา(Drone for TVET of THAILAND) ภายใต้โครงการทดลองนำร่องการบูรณาการนวัตกรรมอาชีวศึกษาเกษตร สู่ความยั่งยืนภายใต้ BCG  โมเดลในวันนี้ เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า ปัญหาที่สำคัญยิ่งอันหนึ่งที่โลกจะประสบในอนาคต คือ ปัญหาวิกฤตความสมดุลของพลังงานและอาหาร คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบให้การขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Model): โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา

“สาขาเกษตรเป็นหนึ่งในสาขายุทธศาสตร์เป้าหมายที่ต้องเร่งรัดพัฒนาให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยกำหนดแนวทาง การขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในระยะ 5 ปีข้างหน้า มีเป้าหมาย "ปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรของประเทศไทยสู่ 3 สูง คือ ประสิทธิภาพสูงด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมผสานภูมิปัญญา มุ่งยกระดับผลผลิตเกษตรสู่มาตรฐานสูงครอบคลุมทั้งด้านคุณภาพ โภชนาการ ความปลอดภัย และระบบการผลิตที่ยั่งยืน เพื่อเป้าหมายให้การทำการเกษตรเป็นอาชีพที่สร้างรายได้สูงด้วยการผลิตสินค้าเกษตรที่เน้นความเป็นพรีเมียม  มีความหลากหลายและกำหนดราคาขายได้ตามคุณภาพของผลผลิต กระทรวงศึกษาธิการ จึงจำเป็นต้องพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาเกษตร เนื่องจากอาชีพหลักของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไทย คือการประกอบเศรษฐกิจสีเขียว

รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาเกษตร เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนภาคเกษตรให้สามารถรองรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของสังคมโลก โดยพัฒนาศักยภาพของสถานศึกษาประเภทวิชาเกษตรและประมง โดยการจัดทำโครงการทดลองนำร่องการบูรณาการนวัตกรรมอาชีวศึกษาเกษตรสู่ความยั่งยืนภายใต้ BCG โมเดล 

ในตอนท้าย คุณหญิง ดร.กัลยา โสภณพนิช   รมช.ศธ. ได้กล่าวขอบคุณสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องที่ให้การสนับสนุนเทคโนโลยีเกษตรในอนาคต ซึ่งจะสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายความร่วมมือการพัฒนาอาชีวศึกษาเกษตรในอนาคต

เรืออากาศโท สมพร ปานดำ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า  ตามนโยบายเร่งด่วนของ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา คือการปฎิรูปกลุ่มวิทยาลัยเกษตรและประมงให้เป็นรูปธรรม สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการเรียนการสอนวิชาชีพเกษตรเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนระดับฝีมือ เทคนิค และเทคโนโลยีเกษตร  ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และตามความต้องการของตลาดแรงงาน จึงได้กำหนดนโยบายเร่งด่วน (Quick Win) อันหนึ่งคือการปฏิรูปกลุ่มวิทยาลัยเกษตรและประมง การพัฒนาประสิทธิภาพ 

“การจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาเกษตร เป็นกลไกที่สำคัญยิ่งในการผลิตและพัฒนากำลังคนภาคเกษตรให้สามารถรองรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ซึ่งในการดำเนินการเพื่อพัฒนาศักยภาพของสถานศึกษาเกษตรนั้น แนวทางใหม่อันหนึ่ง คือการบูรณาการนวัตกรรมอาชีวศึกษาเกษตรสู่ความยั่งยืน ภายใต้ BCG โมเดล โดยจะดำเนินการโครงการทดลองนำร่องผ่านกระบวนการการบริหารจัดการฟาร์ม ภายใต้ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา  ว่าด้วยการส่งเสริมผลิตผลในสถานศึกษา พ.ศ. 2559 ตามโครงการทดลองนำร่องการบูรณาการนวัตกรรมอาชีวศึกษาเกษตรสู่ความยั่งยืนภายใต้ BCG โมเดล ประกอบด้วย กิจกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการฟาร์มในสถานศึกษานำร่อง จำนวน 1 แห่ง  ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี”

เรืออากาศโท สมพร ปานดำ กล่าวด้วยว่า  การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยี การใช้โดรนเพื่อการเกษตร และ Handy Sense IOT ให้กับครูผู้สอนและนักศึกษารวมถึงการวางแผนพัฒนาการจัดการฟาร์มโดยผ่านกลไกการวิจัยและพัฒนา ซึ่งดำเนินการเป็นแบบผสมผสาน คือ ในพื้นที่ (Onsite) โดยผู้เข้าร่วมประชุมจากสถานศึกษา จำนวน 2 คนต่อสถานศึกษาประเภทวิชาเกษตรกรรมและประมง จำนวน 51 แห่ง รวม จำนวน 102 คน และแบบออนไลน์ ผ่านช่องทาง R Channel และระบบ zoom รวมทั้งสิ้นประมาณ 450 คน  และการทดลองขับเคลื่อนการส่งเสริมผลผลิตในสถานศึกษา โดยพัฒนาระเบียบการบริหารจัดการธุรกิจฟาร์ม ภายใต้ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้อง