ปม“ครูเบญ” ชื่อหาย ศธ.ไม่ยอมให้จบง่าย ๆ ดึง สอบสวนกลาง อัยการ ร่วมสอบ 7 วันรู้ผล
นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี “ครูเบญ” ที่คะแนนสอบบรรจุครูผู้สอน สพม.สระแก้วจากเดิมเป็นที่ 1 เป็นสอบไม่ผ่าน ว่า
ขณะนี้แม้ได้ข้อเท็จจริงมาแล้ว แต่เพื่อความเชื่อมั่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอีกหนึ่งชุดไปเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย รองผู้การตำรวจสอบสวนกลาง ผู้การกองปราบ รองอัยการสูงสุด และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงส่วนกลางจำนวน 2 คน เพื่อมาช่วยในการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงในประเด็นนี้
โดยคณะกรรมการชุดนี้ จะมีความเชี่ยวชาญในการสืบสวนหาข้อเท็จจริง กรณีที่สังคมยังสงสัยอยู่ รวมถึงเรื่องการสอบพนักงานราชการ สพฐ.สระแก้ว โดยหลักฐานทั้งหมด จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่สังคมยังสงสัย และจะให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาตรวจสอบว่าเป็นกระดาษคำตอบจริงหรือไม่ หรือถูกแก้ไขหรือไม่ เบื้องต้นมีการตีกรอบกำหนดเวลาไว้ 7 วัน
ทั้งนี้ กระทรวงยังไม่อยากให้จบ เนื่องจากอยากให้ความเป็นธรรมที่สุด อะไรที่กระทรวงสามารถช่วยได้ก็ยินดี ถ้ากระทรวงยื่น ป.ป.ช.เองได้ก็อยากจะยื่นให้สอบสวนอย่างจริงจัง ถึงครูเบญจะจบแต่กระทรวงไม่จบ ต้องเดินหน้าเต็มที่ เพื่อให้ได้รับความจริงที่สุด สิ่งที่กระทรวงทำคือ อยากให้ทุกคนได้ข้อมูลละเอียดรอบคอบที่สุด
ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้ผลสอบได้ถูกส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบขั้นสุดท้าย ซึ่งจะมีมาตรฐานระดับประเทศที่ชี้ได้ชัดเจนว่าหลักฐานทั้งหมดเป็นของจริง หรือถูกดัดแปลงแก้ไขหรือไม่อย่างไร เพื่อความชัดเจนและโปร่งใสอย่างเต็มที่
ระบุอีกว่า กระทรวงศึกษาธิการ จะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งแสดงเจตนารมณ์ที่จะทำงานอย่างยุติธรรม เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างแก่ข้าราชการทุกระดับ
การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงครั้งนี้ เป็นสัญญาณชัดเจนถึงการยืนหยัดแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ไม่ปล่อยให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างซ้ำซาก และจะลงโทษผู้กระทำผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น
ล่าสุดว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า ขณะนี้ตั้งกรรมการสอบ สวนวินัยร้ายแรงกับผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดสระแก้ว (สพม.สระแก้ว) หลังพบการประกาศผลสอบที่ผิดพลาดตามที่เป็นข่าว ซึ่งถือว่าเป็นทำให้ราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง บุคคลที่เกี่ยวข้องจะต้องได้รับบทลงโทษอย่างเด็ดขาด เพื่อรักษาความยุติธรรมและความโปร่งใส