ยื่น "ณัฏฐพล" แล้ว! ค.ร.อ.ท.จี้ตั้ง กก.สอบปม "ลูกชายปลัด ศธ.-9 รองอธิบดี-แต่งตั้งบิ๊ก สอศ."


เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2563 นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (ค.ร.อ.ท.)  เปิดเผยว่า วันเดียวกันนี้ตัวแทน ค.ร.อ.ท.ได้ไปยื่นหนังสือถึงนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผ่านระบบลงรับหนังสือของสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและลงโทษผู้กระทำความผิดจริงใน 5 กรณี

ประกอบด้วย 1.การได้มาซึ่งวิทยฐานะของนายสัมนาการณ์ บุญเรือง บุตรชายนายประเสริฐ บุญเรือง ปลัด ศธ. ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ 2.การแต่งตั้งนายสัมมนาการณ์ บุญเรือง ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาครู คณาจารย์
และบุคลากรทางการศึกษา (ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง)

3.การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น (รองอธิบดี) สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 9 ตำแหน่ง เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา 4.ขอให้ยกเลิกมติที่ประชุมคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ กรณีเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เสนอขอจัดตั้งสำนักงานเขตพื้นที่อาชีวศึกษา จำนวน 6 เขตพื้นที่

และ 5.ขอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบผู้บริหารระดับสูงใน สอศ.บางคน กรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาช่วยเหลือคนใกล้ชิดให้ได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบางสำนัก

นายเศรษฐศิษฏ์กล่าวต่อว่า ในหนังสือร้องขอให้นายณัฏฐพล รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและลงโทษผู้กระทำความผิดใน 5 กรณีดังกล่าว ได้หยิบยกเหตุผลว่า ด้วยเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย ในนามภาคประชาชน ได้รับการร้องเรียนกล่าวหาจากข้าราชการหลายภาคส่วนใน ศธ. รวมทั้งเป็นที่ทราบกันทั่วไปทางสื่อสารมวลชนว่า เป็นกรณีที่มีความเคลือบแคลงและมีเงื่อนงำเป็นที่สงสัยของสังคมข้าราชการใน ศธ.

ในนามของเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย จึงขอร้องเรียนต่อท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กรุณาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นข้อวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาต่างๆ ที่ทาง ค.ร.อ.ท.ได้รวบรวมนำเสนอ พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อครหา เพื่อให้เรื่องทั้งหมดเกิดความเป็นธรรมภายใต้หลักธรรมาภิบาลในกระทรวงศึกษาธิการ

อาทิ เรื่องการได้มาซึ่งวิทยฐานะของนายสัมนาการณ์ ขณะดำรงตำแหน่งในสังกัด กศน. เป็นไปตามกฎหมาย กฎและระเบียบราชการที่กำหนดหรือไม่ ได้รับการช่วยเหลือหรือได้รับการเอื้อประโยชน์จากกรรมการประเมินแต่ละคณะหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วถูกต้องจริง จะได้ถือเป็นกระบวนการต้นแบบให้ข้าราชการทั่วไปได้ศึกษาเป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อการเจริญรอยตามต่อไป ฯลฯ

เรื่องการแต่งตั้งนายสัมนาการณ์ ผอ.กศน.อำเภอหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ วิทยฐานะเชี่ยวชาญ มาดำรงตำแหน่ง ผอ.สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ก่อให้เกิดผลกระทบต่อกระบวนการธรรมาภิบาล และเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจข้าราชการจำนวนมากใน ศธ.หรือไม่ , ได้ผ่านกระบวนการสรรหาตามระบบราชการที่ ก.พ.กำหนดถือปฏิบัติกันมายาวนานอย่างยุติธรรม เพื่อให้ได้คนดีคนเก่งมีความรู้ความสามารถเข้ามาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ฯลฯ

เรื่องขอให้ยกเลิกมติที่ประชุมคณะกรรมการปรับโครงสร้าง ศธ. กรณีเสนอจัดตั้งสำนักงานเขตพื้นที่อาชีวศึกษา 6 เขต ไม่ได้คำนึงถึงบทบัญญัติของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 20 ซึ่งบัญญัติให้การอาชีวศึกษาไม่ยึดโยงเขตพื้นที่เหมือนกับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฯลฯ

และเรื่องขอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบผู้บริหารระดับสูงใน สอศ.บางคน กรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาช่วยเหลือคนใกล้ชิดให้ได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบางสำนัก โดยมีการนำเสนอรายละเอียดบุคคลและตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหา

“ดังนั้น เครือข่ายคนรักษ์อาชีวะ จึงขอร้องเรียนให้นายณัฏฐพล รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ได้พิจารณาตั้งกรรมการสอบกรณีตามที่กล่าวมาทั้งหมด เพื่อให้ความจริงได้ปรากฏและสร้างเสริมระบบธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นกับข้าราชการ ศธ. และหากกรณีมีบุคคลใดกระทำผิดโดยมิชอบ ขอได้โปรดลงโทษต่อไปด้วย ทั้งนี้ มีข้าราชการ
ทั้งประเทศเฝ้าติดตามข่าวสาร และเอาใจช่วยท่านรัฐมนตรีว่าการ ศธ. เพื่อให้เกิดหลักธรรมาภิบาลสร้างขวัญกำลงใจให้กับบุคลากรในกระทรวงศึกษาธิการต่อไป” นายเศรษฐศิษฏ์ ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทยกล่าว