พระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-พระบรมราชินี สู้โควิด-19

       “มีอะไรที่จะมีส่วนช่วยเหลือ ที่จะแก้ปัญหาก็ยินดี เพราะว่าก็เป็นปัญหาของชาติ ซึ่งเรื่องโรคระบาดนี่ก็ไม่ใช่ความผิดของใคร แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือเรามีหน้าที่ที่จะดูแลแก้ไขให้ดีที่สุด อย่างที่เคยพูดไว้ว่า ถ้าเกิดมีความเข้าใจในปัญหา มีความเข้าใจ ไม่ใช่หมายความว่ายอมรับตามบุญตามกรรม แต่มีความเข้าใจในสถานการณ์ มีความเข้าใจในปัญหา และก็มีความรู้เกี่ยวกับโรค ก็คือเข้าใจในปัญหานั่นเอง อันแรกก็เป็นอย่างนี้

        อันที่ ๒ ก็คือจากข้อที่ ๑ ก็คือการมีการบริหารจัดการ มีแผนเผชิญเหตุ มีระบบในการปฏิบัติ แก้ไขให้ถูกจุด รู้ปัญหา แก้ไขให้ถูกจุดโดยมีการบริหารจัดการ แล้วก็ในเวลาเดียวกันก็ต้องให้ประชาชนได้เข้าใจถึงวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง และเหตุผลที่จะต้องปฏิบัติ เพราะว่าการมีระบบ หรือแผนในการปฏิบัติตามแผนที่ได้วางไว้ตามความเป็นจริง ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แก้ถูกจุด ก็จะลดปัญหาลงไป จะแก้ได้ในที่สุด

        ก็เชื่อแน่ว่าจะต้องแก้ไขและก็เอาชนะอันนี้ได้ เพราะว่าประเทศของเรานี่ก็นับว่าทำได้ดี ประเทศของเรานี่น่าภูมิใจว่าทำได้ดี และก็ทุกคนก็ร่วมใจกัน ก็ดีกว่าที่อื่นอีกหลายที่ แต่บางทีก็ต้องเน้นเรื่องการทำงานมีระบบด้วยความเข้าใจ และการมีระเบียบวินัยในการแก้ไขปัญหา

        โดยมีเป้าหมายว่าเราจะต้องต่อสู้ให้โรคนี้สงบลงไปได้ในที่สุด เพราะว่าโรคมาได้ โรคก็ไปได้ โรคจะไม่ไปถ้าเราไม่แก้ไขปัญหา เราไม่แก้ไขให้ถูกจุด หรือเราไม่มีความขันติอดทนที่จะแก้ไข บางทีก็ต้องสละในความสุขส่วนตัวบ้าง หรือเสียสละในการกล้าที่จะสร้างนิสัยหรือสร้างวินัยในตัวเอง ที่จะแก้ไขเพื่อตัวเอง เพื่อส่วนรวม อันนี้เราก็ขอเป็นกำลังใจให้

        พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชบายเพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ แก่นายกรัฐมนตรี คณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขและผู้บัญชาการเหล่าทัพผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

        ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สร้างความโกลาหลวุ่นวายให้กับคนไทยประเทศไทยและโลกอย่างหนักหน่วงในหลายประเทศทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมไปถึงวิถีชีวิตความป็นอยู่ของผู้คน เฉพาะอย่างยิ่งวิถีชีวิตของพี่น้องไทยเราในบ้านเมืองเรา ผลกระทบที่จะสร้างความเดือดร้อนแก่การดำเนินชีวิตอันเป็นชะนวนลามไปยังด้านอื่นๆคือด้านเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาไม่กี่เดือนก็ประจักษ์ชัดว่าเกิดผลกระทบที่มีแนวโนมรุนแรงโดยตรงด้วยโรคร้าย“ไวรัสโคโรนา2019”หรือโรค “โควิด-19”

        บอกกันได้เลยว่า วันนี้จะหยุดการแพร่เชื้อโควิด-19ได้ทุกคนต้องร่วมมือ “อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ”

        ต้องยอมรับว่า การแพร่ระบาดของไวรัสตัวนี้รุนแรง รวดเร็ว และขยายวงกว้างขวางกว่าที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเคยประเมินไว้จริงๆ สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติประชาชนถึงขนาดที่รัฐบาลต้องกู้เงินมาแก้ปัญหาถึงนับล้านล้านบาท เยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนคนไทยทั้งประเทศ แล้วก็ประคับประคองเศรษฐกิจไทยไปพร้อมกัน

        รัฐบาลรับภาระหนักในภาพรวมอยู่แล้ว แต่คนที่เป็นทัพหน้าสู้กับโรคโควิด-19 ปกป้องความปลอดภัยพี่น้องไทยที่หนักสุดเป็นนักรบแนวหน้าคือกลุ่มคนบุคลากรทางการแพทย์หรือนักรับชุดเสื้อขาวจึงต้องขอให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ทางสาธารณสุขแนวหน้าทุกท่าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐและภาคเอกชนทั่วไทยทั่วโลกที่เสียสละกายใจทุ่มเทความสุขความเสี่ยงเยียวยาผลกระทบอันใหญ่หลวงนี้ แต่ก็หวังว่าฝันร้ายครั้งนี้จะผ่านไปจบลงด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกคนทุกท่าน ปฏิบัติตามกติกาที่ท่านผู้รู้และภาครัฐออกประกาศมาให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเป็นเกราะป้องกันมิให้ไวรัสโควิด-19 แพร่เชื้อต่อไปได้ 

        ดังเช่นในการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) ใส่หน้ากากผ้า ล้างมือด้วยเจลแอลกอล์ฮอร์ เป็นต้น สำคัญที่สุด อยู่บ้าน ลดเชื้อ เพื่อชาติ ก็ขอให้อยู่กับบ้านไม่ออกไปข้างนอกถ้าไม่มีความจำเป็นจริงๆ เพื่อหยุดการแพร่และรับเชื้อ 

        แต่ถึงพี่น้องไทยทุกคนจะประสบพบเจอทุกข์แค่ไหนเพียงใดจากภัยร้ายใดก็ตามพี่น้องไทยทุกคนครับ ขอให้สำนึกอยู่ในหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือมีสติ อย่าสติแตก อย่าลืมสติขาดสติ โดยพึงระลึกตามหลักธรรมคำสอนว่าทุกสรรพสิ่งล้วนอนิจจัง เกิดขึ้น เจริญงอกงามแล้วก็ดับไปทุกวิกฤตมีเกิดแล้วย่อมมีดับเป็นธรรมดาโลก การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งนี้ก็เช่นกัน  

        ที่สำคัญที่สุดเราคนไทยเกิดมาดำเนินชีวิตไปแม้จะประสบทุกข์แค่ไหนเพียงใดก็โชคดีที่สุดในโลกเช่นกันที่ได้เกิดมาภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมพรแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐที่ทรงแผ่พระมหากรุณาธิคุณบรรเทาทุกข์โศกทุกยุคสมัย ทุกพระองค์แผ่พระเมตตาชะโลมหัวใจประชาชนมานับแต่อดีตตราบปัจจุบัน ด้วยเพราะพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ทรงห่วงใยราษฎร ทรงดำเนินพระองค์ร่วมสุขร่วมทุกข์ ทรงทุ่มเทพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขแก่ราษฎร ทรงให้ความช่วยเหลือและทรงเป็นขวัญกำลังใจเมื่อมีทุกภัยถึงประชาชนทรงเป็นมิ่งมงคลแก่คนไทยทุกหมู่เหล่าทั้งประเทศ

        วันนี้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศกำลังประสบทุกข์ด้วยไวรัสโควิด-19 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ด้วยพระราชหฤทัยห่วงใยพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณแก่คนไทย โดยพระราชทานเครื่องมือแพทย์พร้อมอุปกรณ์จำเป็นและขาดแคลนอยู่เช่นหน้ากากอนามัย หน้ากากชิล เป็นต้น แก่โรงพยาบาลแก่บุคลากรทางการแพทย์แล้วยังพระราชทานพระบรมราโชบายแนวทางการสู้กับโรคโควิด-19 ผ่านนายกรัฐมนตรีและคณะ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ทรงแผ่พระบารมีเป็นน้ำทิพย์ชะโลมใจเป็นพลังให้สู้กับภัยเชื้อไวรัสดังกล่าวให้ผ่านพ้นไปได้ในเร็ววันด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมแน่นอน

ในหลวง พระราชทานเครื่องช่วยหายใจให้ รพ.ตากสิน-รพ.พระมงกุฏเกล้า รับมือโควิด-19

        วันที่ 3 เม.ย.63 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องมือแพทย์พระราชทาน เพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19 แก่โรงพยาบาลตากสิน สำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร และพระราชทานเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า กรมแพทย์ทหารบก กองทัพบก โดยมีผู้บริหารและคณะผู้บริหารโรงพยาบาลเป็นผู้แทนรับมอบของพระราชทาน

       โดยอุปกรณ์การแพทย์ที่พระราชทานให้แก่โรงพยาบาลตากสิน สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เป็นเครื่องช่วยหายใจ Bennett รุ่น840 ซึ่งเป็นเครื่องช่วยหายใจชนิด Volume control เหมาะสำหรับผู้ป่วยวิกฤติ และผู้ป่วยที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องรับบริการจำนวน 3 เครื่อง

        สำหรับเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่พระราชทานให้แก่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ประกอบด้วย เครื่องช่วยหายใจ Draeger จำนวน 3 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Puritan Bennett จำนวน 2เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Event จำนวน 2 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Maquet จำนวน 1 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Neumovent จำนวน 2 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Bellavista จำนวน 1 เครื่อง  เครื่องช่วยหายใจ LAVI จำนวน 1 เครื่อง รวม 12 เครื่อง และเครื่องวัดออกซิเจนแบบปลายนิ้ว จำนวน 13เครื่อง

        การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ ยังความปลื้มปิติในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ตลอดจนเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มกำลังความสามารถ

        อนึ่ง ก่อนหน้านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานเครื่องช่วยหายใจเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์โควิด-19 ให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ มาแล้ว ประกอบด้วยโรงพยาบาลตํารวจ เครื่องช่วยหายใจ Puritan Bennett รุ่น980 จำนวน 1 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Puritan Bennett รุ่น 840 จำนวน 2 เครื่อง , โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ กองทัพอากาศ ประกอบด้วย เครื่องช่วยหายใจ Puritan Bennett รุ่น 980 จำนวน 1 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Puritan Bennett รุ่น 840 จำนวน 2 เครื่อง เครื่องวัด Oxygen Rossmax รุ่น SB 100 จำนวน 8 เครื่อง เครื่องวัด Oxygen Rossmax รุ่น SB 200 จำนวน 5 เครื่อง

        โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เครื่องช่วยหายใจ Puritan Bennett รุ่น 980 จำนวน 1 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Puritan Bennett รุ่น 840  จำนวน 3 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Draeger รุ่น Carina จำนวน 2 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Maquet รุ่น SERVO-s จำนวน 1 เครื่อง เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว จำนวน 13 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Draeger รุ่น V 300 จำนวน 1 เครื่อง เครื่องช่วยหายใจ Event รุ่น 7iL จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องช่วยหายใจ Event รุ่น Evolution จำนวน 1 เครื่อง

        โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานครเครื่องช่วยหายใจ Bennett รุ่น 840 จำนวน3 เครื่อง และ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เครื่องช่วยหายใจ Bennett รุ่น 840 จำนวน 3 เครื่อง

ในหลวง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกฯเข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานสถานการณ์โรคโควิด-๑๙   

        วันจันทร์ที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๒๔ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ และมาตรการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล

        พร้อมทั้งรับพระราชทานพระบรมราโชบาย และรับพระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลเหล่าทัพ และโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อันจะช่วยเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด ๑๙ ในประเทศไทย

        พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพพลานามัยของประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ในการรักษาโรคโควิด ๑๙ ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคนี้อย่างใกล้ชิด ทรงทราบว่าหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น โรงพยาบาลในประเทศไทยจะมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ จึงได้ทรงจัดหาพระราชทานให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อให้พร้อมรับมือกับโรคโควิด ๑๙ อันจะเป็นประโยชน์แก่การให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนต่อไป

        โดยในเบื้องต้นนี้ ได้พระราชทานเครื่องช่วยหายใจ จำนวน ๑๓๒ เครื่อง และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว จำนวน ๕๐ เครื่อง ซึ่งบางส่วนได้ดำเนินการติดตั้งในโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังพระราชทานหน้ากากอนามัย จำนวน ๒ ล้านชิ้น หมวก Face Shield จำนวน ๓๐,๐๐๐ ใบ และชุดป้องกันการติดเชื้อโรค (PPE) จำนวน ๔,๐๐๐ ชุด แก่บุคลากรทางการแพทย์ และโรงพยาบาลต่างๆ ด้วย

         ทั้งนี้ ทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญ ที่จะต้องดูแลประชาชนให้มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ อันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี ทรงถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน อันเป็นหน้าที่ที่ประชาชนชาวไทยทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

         อนึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะแพทย์จากโรงพยาบาลกรุงเทพ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายตรวจพระสุขภาพ โดยมีคณะผู้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทร่วมอยู่ในการตรวจด้วย ผลการตรวจปรกติ พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง

         โอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีรับสั่งทรงห่วงใยแพทย์พยาบาลว่า

         “...หมออาจจะเหนื่อยหน่อยช่วงนี้ ฝากเป็นกำลังใจให้หมอกับพยาบาลด้วยค่ะ...”

        เป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

        ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ทรงสร้างสุขทั้งแผ่นดิน

เสกสรร  สิทธาคม

Seksan2493@yahoo.com

Siamedunews.com