องคมนตรี-ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพเจ้าหน้าที่-ประชาชนที่เสียชีวิตเหตุการณ์คนร้ายกราดยิง จ.นครราชสีมา

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หน่วยราชการในพระองค์ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ และประชาชนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงเจ้าหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 ถึง 9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ วัดต่างๆ ดังนี้ นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี  เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ดาบตำรวจ ชัชวาลย์  แท่งทอง ณ วัดโพธิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นางสาวอภิกษณาภา ขันผักแว่น ณ วัดหนองไผ่ ตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมานายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายจักรพันธ์  ชิพิมาย  ณ วัดสระบัวเกลื่อน ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายเอกกวิน ยืนทน ณ วัดบ้านใหม่ไทยเจริญ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา

พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายทัศนะ หริรักษ์ ณ วัดดอนขวาง ตำบลหัวทะเล อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมานายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายวัชรพล พาณิชย์ ณ วัดสะแก ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาพลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายศรัณยพงศ์ พงษ์ชอุ่มดี ณ วัดช่องอู่ ตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมานายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายจิรวัฒน์  รัดกลาง ณ วัดนามาบ ตำบลขามสะแกแสง อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา

        

พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นางกรรณิการ์ การบรรจง ณ วัดบ้านหนองโพธิ์ ตำบลชีวึก อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา และเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายอำนาจ บุญเอื้อ ณ วัดหนองบัว ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ  รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ

นายสมเกียรติ วิชชุปัญญาพาณิชย์ ณ วัดสุทธจินดา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา พลอากาศตรี ธีระ เชียงทอง รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นางพัชรา จันทร์เพ็ง ณ วัดป่าภูธรพิทักษ์ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร พลเรือเอก ปวิตร รุจิเทศ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายอธิวัฒน์ พรมสุข ณ วัดหนองจิก ตำบลหนองโดน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์

ในการนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน และโปรดประทานดอกไม้จันทน์ในการพระราชทานเพลิงศพด้วย

ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ ระดับ 10 เป็นประธานในพิธีเชิญดินพระราชทาน ไปในพิธีวางดินฝังศพ นางจุฑารัตน์ ลิมป์สิริวรรณ (อ่านว่า ลิ้ม-สิ-หริ-วัน) ณ วัดนักบุญอันนา อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร

การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยต่อการเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง คนร้ายกราดยิงประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญแจกันดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บที่เข้าพักรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลต่างๆ และทรงรับผู้บาดเจ็บไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพวงมาลาหลวง พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม และโปรดให้เชิญพวงมาลาไปวางที่หน้าหีบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย อีกทั้งยัง ทรงรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ เชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปเยี่ยมครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

และเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ได้พระราชทานพระราชกระแสแสดงความเสียพระราชหฤทัยเกี่ยวกับการเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา กับทรงชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชนที่ตกอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ต่างมีความอดทน เข้มแข็ง และมีน้ำใจช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันในยามคับขัน แสดงให้เห็นถึงพลังความสามัคคี ความรัก ความห่วงใยที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ และพี่น้องประชาชนชาวไทยด้วยกัน