ดร.อรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวในการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.ทั่วประเทศ ว่า

เร็วๆ นี้ ตนจะส่งหนังสือแจ้งถึงนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เพื่อทวงเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ที่ทางธนาคารออมสินได้ทยอยหักไปชำระหนี้แทนครูผู้กู้ที่ค้างชำระธนาคารออมสินเกิน 3 งวดขึ้นไป จำนวนราว 99,189 คน รวมเป็นเงินประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท

“ผมจะแจ้งกับผู้อำนวยการธนาคารออมสินว่า ให้รีบคืนเงินกองทุนก้อนมหาศาลนี้มา ก่อนที่เพื่อนครูจะลุกฮือไปชุมชนทวงเงินหน้าธนาคารออมสิน เพราะ สกสค.ได้ศึกษาดูจากบันทึกข้อตกลงระหว่าง สกสค.กับธนาคารออมสินเกี่ยวกับการจัดการโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิก ช.พ.ค.ที่ได้จัดทำกันก่อนหน้านี้ ไม่มีข้อความตรงไหนเปิดทางให้ธนาคารออมสินเอาเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิก ช.พ.ค.ไปใช้ได้”

ดร.อรรถพลกล่าวต่อว่า ตนจะแจ้งกับผู้อำนวยการธนาคารออมสินว่า ถ้าทางธนาคารยังไม่ยอมคืนเงินกองทุนนี้มา อาจจะต้องเสี่ยงเผชิญกับเหตุการณ์ครูลุกฮือรวมตัวกันไปทวงเงินที่ธนาคารออมสินอย่างแน่นอน

ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดหาบริษัทประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อราคาถูก ให้กับเพื่อนครูผู้กู้ยืมเงินในโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิก ช.พ.ค.ที่ทยอยหมดอายุกรมธรรม์กับบริษัทเดิมว่า

ตนได้หารือกับทางผู้บริหารธนาคารออมสินในเบื้องต้นว่า ครูที่ยังเหลือหนี้ต้องชำระไม่เกิน 7 แสนบาท ซึ่งมีจำนวนประมาณ 1.7 แสนคน ขอไม่ต้องต่ออายุการทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อได้หรือไม่ ถ้าครูคนใดจะทำ ก็ให้เป็นไปตามความสมัครใจ เนื่องจากวงเงินฌาปนกิจ ช.พ.ค.ที่ได้รับประมาณ 1 ล้านบาท สูงกว่ายอดหนี้คงเหลืออยู่แล้ว ซึ่งทางผู้บริหารธนคารออมสินบอกว่า จะขอกลับไปหารือกับคณะกรรมการบริหารของธนาคารก่อน

ดร.อรรถพลกล่าวต่อว่า ส่วนครูที่มียอดหนี้คงเหลือในโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิก ช.พ.ค. โครงการ 5-7 ไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวนประมาณ 45,765 คน, ยอดหนี้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวนประมาณ 189,842 คน และยอดหนี้คงเหลือเกิน 2 ล้านบาท อีกจำนวนประมาณ 34,248 คน ซึ่งกรมธรรม์ประกันสินเชื่อกับบริษัทเดิมกำลังทยอยหมดอายุไปจนถึงปี 2567 นั้น ทางธนาคารออมสินแจ้งว่า จะให้ครูทำประกันต่อกับบริษัท ทิพยประกันชีวิต แบบอัตโนมัติ ซึ่งตนได้คัดค้านไป

พร้อมทั้งแจ้งไปว่า สกสค.กำลังหาบริษัทประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ ที่ให้ประโยชน์กับครูสูงสุด และราคาถูก เพื่อให้ครูได้เลือกทำประกันสินเชื่อตามความสมัครใจ ซึ่งขณะนี้มี 5 บริษัทที่เสนอเงื่อนไขมาที่ สกสค.แล้ว

โดยภาพรวมเสนอราคาเบี้ยประกันมาถูกกว่าของเดิมประมาณครึ่งหนึ่ง เช่น ครูผู้กู้อายุประมาณ 40 ปี คิดเบี้ยประกัน 100 กว่าบาทต่อวงเงินประกัน 1 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งตนจะเร่งนำเสนอ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเจรจากับทางธนาคารออมสินในเรื่องนี้ต่อไป