“กรมสุขภาพจิต”เปิดบริการ!เช็คอุณหภูมิความสุข ผ่านเว็บ-สมาร์ทโฟน


นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กรมสุขภาพจิตมีนโยบายเสริมสร้างความสุขประชาชนวัยทำงานอายุ 15-59 ปี ซึ่งมีประมาณ 37 ล้านคน

เนื่องจากเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญ และเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศ เป็นผู้ที่รับภาระรับผิดชอบดูแลทั้งตนเองและครอบครัว เมื่อเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์เศรษฐกิจ สังคม จะทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย ซึ่งส่งผลต่อปัญหาสุขภาพตามมา รวมทั้งทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และความสุขในการดำเนินชีวิตประจำวันลดลงไปด้วย  

คนเราใช้เวลาอยู่ในที่ทำงานวันละ 7-8 ชั่วโมง หรือใช้เวลาประมาณครี่งหนึ่งที่เราตื่น หากเราไม่มีความสุขในการทำงาน ก็เท่ากับชีวิตครึ่งหนึ่งของเราไม่มีความสุข  และอาจจะส่งผลทำให้ชีวิตด้านอื่นๆไม่มีความสุขตามไปด้วย ในทางตรงกันข้าม หากชีวิตการทำงานมีความสุข จะยิ่งเกิดกำลังใจ มีแรงจูงใจในการทำงาน

จึงขอเชิญชวนให้ทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะงานบริหารทรัพยากรบุคคลทั้งภาครัฐละเอกชน ให้ความใส่ใจในการดูแลสุขภาพจิต เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคน ทำงานอย่างมีความสุข 

อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่อว่า วิธีการเสริมสร้างความสุขในการทำงานนั้น ประการสำคัญให้เริ่มต้นจากตนเอง โดยมีข้อแนะนำให้ปฏิบัติ 5 ประการดังนี้ 1. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปทำงานแต่ละวัน เช่น นอนให้พอ ทานมื้อเช้าให้อิ่ม และบอกตัวเองทุกครั้งว่า “ฉันพร้อมแล้วที่จะทำงาน”

2.ผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานด้วยการใจกว้าง รับฟัง รู้จักพูดให้เป็น เช่น พูดชื่นชมเมื่อเพื่อนทำดี ขอโทษเมื่อทำผิด รับฟังและให้กำลังใจเมื่อเพื่อนร่วมงานเกิดความท้อแท้ และยอมรับความคิดต่าง 3.เปิดใจรับฟังเมื่อหัวหน้าให้คำแนะนำหรือตักเตือน และชี้แจงด้วยเหตุผลมากกว่าการใช้อารมณ์

4.พัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จในการทำงาน โดยหมั่นฝึกฝนหาความรู้เพิ่มเติมในงานที่ทำ รวมทั้งถ้าได้รับมอบหมายงานใหม่ๆให้คิดว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง  ซึ่งจะทำให้เราเกิดความภาคภูมิใจและมีความสุขกับการทำงาน และ 5.หาที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้เมื่อมีปัญหา เช่นเพื่อนสนิท หัวหน้างาน เพื่อช่วยกันคิดแก้ปัญหา

สำหรับผู้ที่ไม่มีความสุขในการทำงาน มีข้อสังเกตได้จากการมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม ดังนี้ 1.เบื่อ ไม่อยากทำงาน ขาดความกระตือรือร้น ทำงานผิดพลาดบ่อย หรือขาดงานเป็นประจำ 2.ไม่อยากพูดกับใคร โกรธง่าย น้อยใจง่าย ไม่รู้สึกสนุกสนานเหมือนเดิม 3.สูบบุหรี่จัดขึ้น หรือดื่มเหล้าจัดขึ้น จนบางครั้งขาดงาน หรือหาทางออกด้วยการเล่นการพนัน 4.เจ็บป่วยบ่อยๆ โดยไม่มีสาเหตุ เช่น ปวดหัวเป็นประจำ ปวดหลัง ปวดไหล่ อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ อยากนอนตลอดเวลา

“หากพบว่าตัวเองหรือเพื่อนร่วมงานมีอาการที่กล่าวมา สามารถขอรับบริการปรึกษาที่สถานบริการสาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อหาทางแก้ไขที่เหมาะสม” นต.นพ.บุญเรืองกล่าว

ด้านนางสุดา วงศ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กล่าวเสริมว่า ขณะนี้สำนักฯได้พัฒนาแบบประเมินความสุขคนไทยออนไลน์ ซึ่งมีทั้งหมด 15 ข้อ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนวัยทำงานอายุ 15-59 ปี ทั่วประเทศ ทุกอาชีพ สามารถประเมินความสุขของตนเองได้ทางระบบอินเตอร์เน็ต ทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ตลอด 24 ชั่วโมง  

การประเมินความสุขตนเอง จะเป็นผลดีทำให้เรารู้เท่าทันสภาพจิตใจตนเอง และจะได้พัฒนาแก้ไขให้ถูกต้องตามคำแนะนำ ไม่ให้เกิดสะสมจนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังหรือการเก็บกดไว้   

โดยสามารถประเมินความสุขออนไลน์หรือดาวน์โหลดแบบประเมินได้ ทางเว็บไซต์ของสำนักส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิต www.sorporsor.com  และสามารถสแกนคิวอาร์โค้ด (QR code) แบบประเมินนี้ทางโทรศัพท์สมาร์ทไฟนได้เช่นกัน