“รศ.ดร.ชนินทร์ วะสีนนท์” อธิการบดี!พอเพียง ฝากผลงานระดับ “เวิลด์คลาส”

รศ.ดร.ชนินทร์ วะสีนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) สกลนคร ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวสยามเอ็ดดูนิวส์” ว่า ตนกำลังจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งอธิการบดี มรภ.สกลนคร ในวันที่ 9 เมษายน 2560 นี้ โดยไม่ได้ลงสมัครรับการสรรหาต่อเป็นสมัยที่ 2 แม้ว่าจะมีหลายคนชักชวนให้ลงสมัครต่อ

ทั้งนี้ เพราะตนมีความตั้งใจไว้ว่า ระหว่างที่กลับมาเป็นอาจารย์สอนในคณะวิทยาการจัดการ มรภ.สกลนคร ซึ่งตนยังมีอายุราชการอีกประมาณ 7 ปี จะได้มีเวลาปฏิบัติธรรมมากขึ้น โดยทุกวันนี้ตนมักไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าภูไม้ฮาว อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร

ผู้สื่อข่าว “สำนักข่าวสยามเอ็ดดูนิวส์” ถามว่า มีคนมักพูดว่าตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัย หอมหวลและถึงพร้อมด้วยลาภยศ สรรเสริญ ไม่รู้สึกเสียดายบ้างหรือ รศ.ดร.ชนินทร์กล่าวตอบว่า “อย่างที่บอก ผมมีเป้าหมายไว้อยู่แล้วว่า จะปฏิบัติธรรม และในช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีที่ผ่านมา ผมก็เต็มที่กับการทำงานแล้ว”

เมื่อถามว่า การตัดสินใจไม่ลงสมัครรับการสรรหาในสมัยที่ 2 นั้น มีสาเหตุในเรื่องของปัญหาภายในประชาคม มรภ.สกลนคร มาเกี่ยวข้องบ้างหรือไม่ รศ.ดร.ชนินทร์กล่าวตอบว่า ตนว่าทุกมหาวิทยาลัยก็ย่อมมีปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่ผ่านมาก็เคลียร์ได้ทุกเรื่อง ไม่ได้สร้างความหนักใจอะไร ประกอบกับตนได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ในสภามหาวิทยาลัยที่ลงมาช่วยแก้ไขปัญหาให้ด้วย และที่สำคัญประชาคม มรภ.สกลนครมีวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันที่ดีมาก รุ่นน้องเคารพรุ่นพี่ และมีการพูดจากันด้วยเหตุผล

“ผมอยู่ในตำแหน่งอธิการบดี มรภ.สกลนคร จนครบวาระ 4 ปี ผมว่าแค่นี้ก็พอแล้ว อีกอย่างมีบุคลากรรุ่นน้องที่มีความรู้ ความสามารถมารับช่วงต่อกันได้อยู่แล้ว สำหรับผมมองว่าตำแหน่งอธิการบดีก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร ไม่ได้มีตัวตนอะไรมากมาย”   

รศ.ดร.ชนินทร์ยังให้สัมภาษณ์ถึงผลการบริหารงานที่ผ่านมา จนสามารถฝากผลงานระดับ “เวิลด์คลาส” ว่า ตนเรียนจบทางด้านเศรษฐศาสตร์ และสมัยที่เป็นรองอธิการบดีก็ได้ดูแลเรื่องของแผนงาน โครงการ และการใช้จ่ายงบประมาณมาโดยตลอด ดังนั้น ผลงานที่รู้สึกประทับใจประการหนึ่งคือ การปรับปรุงและสร้างจิตสำนึกของคณาจารย์ในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า จนได้รับการรับรองคุณภาพจากคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ให้คะแนนผ่านเกณฑ์ชี้วัดอยู่ใน 5 อันดับแรกของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ และ 10 ลำดับแรกของกลุ่มมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

รศ.ดร.ชนินทร์กล่าวด้วยว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา มรภ.สกลนครยังสร้างผลงานที่ได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติอีกหลายผลงาน โดยเฉพาะผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในเรื่องของพลังงานทดแทน ซึ่งพระองค์ทรงมีพระวิสัยทัศน์ว่า วันหนึ่งน้ำมันจะหมดไปจากโลก ดังนั้น ประเทศไทยเราจึงต้องสร้างพลังงานทดแทนขึ้นมาให้ได้

“ซึ่งเป็นที่มาของศูนย์ความเป็นเลิศด้านพลังงานทางเลือก มรภ.สกลนคร และได้สร้างผลงานเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ คือ การสกัดเซลล์เทอร์โมอิเล็กทริกส์จากเปลือกหอยเชอรี่ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่ง มรภ.สกลนครได้ทำการจดสิทธิบัตรไว้แล้ว”

รศ.ดร.ชนินทร์กล่าวต่อว่า ผลงานวิจัยดังกล่าวได้นำไปประกวดและได้รับรางวัลในเวทีนานาชาติ อาทิ เหรียญเงิน (SILVER MEDAL) และเหรียญรางวัลพิเศษจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในกลุ่ม Transport-Motor vehicles-Ships-Aviation Accessories จากการประกวดและจัดแสดงนิทรรศการในงาน “44th International Exhibition of Inventions of Geneva” ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เมื่อเดือนเมษายน 2559 อีกทั้งในครั้งที่นำไปจัดแสดงที่ประเทศเกาหลีใต้ ทางเกาหลีก็สนใจติดต่อขอซื้อกระบวนการวิจัยผลงานชิ้นนี้ด้วย

นอกจากนี้ ในปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมไปใช้ในเชิงพาณิชย์ อาทิ ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 29 พัฒนานวัตกรรมผลิตความเย็นในชุดเครื่องแบบทหาร โดยนำเซลล์เทอร์โมอิเล็กทริกส์สกัดจากเปลือกหอยเชอรี่นี้ ไปพัฒนาสำหรับเครื่องแบบทหารที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ รวมทั้งต่อยอดสิ่งประดิษฐ์ “หมวกกันน็อคสมาร์ท” (Smart Motorcycle Helmet) ที่สามารถปรับอุณหภูมิเป็นหมวกกันน็อคเย็นอีกด้วย

“ทางคณะเทคโนโลยีการเกษตร มรภ.สกลนคร ก็กำลังนำเซลล์เทอร์โมอิเล็กทริกส์สกัดจากเปลือกหอยเชอรี่นี้ ไปพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมร่วมกับการใช้ก๊าซชีวภาพสำหรับหุงต้ม เพื่อผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าด้วย” รศ.ดร.ชนินทร์กล่าว