หยิกแก้มหยอก 6-12 มีนาคม 2560


หยิกแก้มหยอก” ประจำวันที่ 6-12  มีนาคม 2560 โดย “สิงห์ ราชดำเนิน” สัปดาห์นี้ขอหยิบยกถกประเด็นบุคคล สังคม ในแวดวงสังคมการศึกษา ขึ้นมาส่งอ่านผ่าน www.siamedunews.com ว่ากันเรื่องใหม่ๆ ในวงการศึกษา ตั้งแต่ประถมฯ มัธยมฯ และอุดมศึกษา ติดตามกันได้

...ขอเริ่มต้นด้วย ณ วันนี้ สำนักพระราชวัง สรุปยอดถึงวันที่ 4 มี.ค.2560 ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมารอต่อแถว เข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท อย่างต่อเนื่อง รวม 122 วัน จำนวน 4,947,049 คน และ ถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล รวมทั้งสิ้น 417,904,250.59 บาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

...สำนักพระราชวังอิมพีเรียล ประเทศญี่ปุ่น แจ้งหมายกำหนดการ สมเด็จพระจักรพรรดิ อากิฮิโตะ และ สมเด็จพระจักรพรรดินี มิชิโกะ เสด็จพระราชดำเนินจากประเทศเวียดนาม เพื่อมา ถวายพระราชสักการะพระบรมศพ และลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ในสมุดหลวงแสดงความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศญี่ปุ่น วันที่ 6 มีนาคม 2560

...สำหรับ “หยิกแก้มหยอก” เนื้อหาสาระและข้อคิด สะกิดใจ บนเว็บไซต์สำนักข่าวสยามเอ็ดดูนิวส์ www.siamedunews.com ว่ากันทุกเรื่องในแวดวงการศึกษา..ขณะที่ สื่อสิ่งพิมพ์หลัก ทยอยกันปรับตัวกันเพื่อการอยู่รอด นับวันพื้นที่เนื้อหาเพื่อการศึกษา เหลือน้อยเต็มที หรือบางสำนักอาจะไม่มีเหลือเลยก็เป็นไปได้ คงเป็นการบ้านใหญ่ให้กับบรรดา พี.อาร์.สถาบันการศึกษา ทั้งหลายนำไปขบคิดกันต่อไป

...ชะแว้บเข้าไปที่ การประชุม ครม. ส่งท้ายกุมภาพันธ์ 2560 ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เจื้อยแจ้วยกคำสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) หารือกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา พิจารณารื้อฟื้นการจัดตั้ง กรมการฝึกหัดครู ขึ้นมาใหม่ และให้มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตร..โอว์!เป็นการ ตบหน้าอดีต 9 อรหันต์การศึกษา อย่างแรง มีใครมั่งนั่งนึกย้อนเอาเอง!!

...กรมการฝึกหัดครู ซึ่งในอดีตดำเนินการได้ดีมาก สามารถผลิตครูที่ดีและมีคุณภาพ ก็ใช่! ไม่น่าจะมีใครค้าน หากจะตั้งกรมการฝึกหัดครูขึ้นมาใหม่ ม.44 ก็ยังขลังอยู่..ลองยุบมหาวิทยาลัยราชภัฏ เช่น ม.ราชภัฏสวนสุนันทา ของ รศ.ดร.ฤาเดช เกิดวิชัย และ ม.ราชภัฏพระนคร ของ รศ.ดร.พงศ์ หรดาล ที่มีการประกาศ จะจัดตั้งวิทยาลัยการฝึกหัดครู และที่อื่นๆ ถ้ามี ไปอยู่ในสังกัดกรมการฝึกหัดครู ทำหน้าที่ผลิตครูของประเทศให้มีคุณภาพโดยตรง จะเร็วกว่าไหม!?!?

...กับ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สำรวจช่วง 2 ปี 6 เดือน ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประชาชนประทับใจการทำงานของ กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา มากสุด! ตามด้วย พล.ต.อ.อดุลย์  แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมฯ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ตามลำดับ ส่วน กระทรวงศึกษาไร้อันดับเช่นเคย

...เชียร์ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่หนุนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบ องค์กรอิสระ ตลอดจนองค์กรหน่วยงานราชการ ที่ไป ศึกษาดูงานต่างประเทศ ในหลักสูตรต่างๆ ว่า เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้ารับการพัฒนาบุคลากรและหน่วยงานหรือไม่ เพียงใด ถ้าทำได้จริง! จะช่วยประหยัดเม็ดเงินอันเป็นภาษีของประชาชนได้อีกพะเรอเกวียน

...ตีวกเข้ามาในสถาบันอุดมศึกษา ก็ใช้งบฯแผ่นดิน สตง.มีสิทธิ์จะเข้าไปตรวจสอบ แม้ว่ากรมบัญชีกลาง จะมีการแจงพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการฯ ตีกรอบค่าเดินทางไปต่างประเทศตามระยะเวลาเดินทาง จะสอดคล้องและเหมาะสมต่อสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่..ลองลงมือตรวจสอบ ไปที่สถาบันอุดมศึกษาสักสองสามแห่ง อธิการบดี ที่ไหนบ้าง เอาหลังพิงโครงการฯ เดินทางไปต่างประเทศเป็นว่าเล่น ก็น่าจะสะกิดต่อมสำนึกได้มั่ง!!เฮ้อ

...อย่างที่ ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่าไว้ชัดถึงกรณีคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีมติ เอาผิดวินัยร้ายแรง รศ.ดร.ประพันธ์ ธรรมไชย อธิการบดี ม.ราชภัฏเชียงใหม่ และ รองอธิการบดีอีก 2 คน ที่จัดโครงการศึกษาดูงานต่างประเทศ สตง.เข้าไปเป็นหูเป็นตาตรวจสอบ..แต่หากข้าราชการออกค่าเรียนและค่าเดินทางไปต่างประเทศเอง ก็จะต้องดูในเรื่องวันเวลา และจะต้องรายงานผู้บังคับบัญชาด้วย ชัดม่ะ!!

...เป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ควรที่ผู้บริหารราชการระดับสูง ไม่เฉพาะ ศธ.เท่านั้น ต้องตระหนักไว้ให้ดี เมื่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินมีมติเอาผิดที่ไปศึกษาดูงานที่เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส 9 วัน ปี 2557 เนื่องจากไม่ได้มีการศึกษาดูงานตามที่ระบุในโครงการของบประมาณแผ่นดิน 6,040,487.13 บาท  ยังต้องรับผิดทางละเมิด คืนเงินให้ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ด้วย!!เฮ้อ 

...นำคณะครูอาจารย์ประกาศเจตนารมณ์บริหารงานด้วย ความซื่อสัตย์สุจริต แสดงพลังต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นหน่วยงานที่มีคุณธรรมและโปร่งใส ผศ.สุวิทย์ วงษ์บุญมาก อธิการบดี ม.ราชภัฏกำแพงเพชร พร้อมที่จะรับผิดชอบหากเกิดความไม่เป็นธรรม หรือทุจริตคอร์รัปชัน พร้อมเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงาน กำกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด.. อย่างนี้ต้องขอแสดงความนับถือจริงๆ

...ได้แต่ เพ้อรำพัน กับการจัดการแก้ไข ปัญหาธรรมาภิบาล การบริหารจัดการที่ไม่โปร่งใส และการ เปิดหลักสูตรที่ไม่ได้คุณภาพ ของสถาบันอุดมศึกษาไทย..วานนี้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. ลงนามในคำสั่งให้มีการดำเนินการ อีก 9 มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน เพื่อเสนอให้ คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 มีที่ไหนมั่ง! ไม่ยักกะบอก แล้วใครเขาจะรู้ม่ะ!!

...ทันทีที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. ลั่นต่อไปนี้ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา จะเปลี่ยนเส้นทางเข้าสู่โครงสร้างในตำแหน่ง ประเภทอำนวยการระดับสูง แทนตำแหน่งประเภทบริหารการศึกษา ไม่ต้องทำผลงาน เพื่อขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญ หรือเชี่ยวชาญพิเศษอีกต่อไป แต่จะสอบเพียงความรู้พื้นฐานด้านกฏหมายและการบริหาร เน้นประสบการณ์การทำงาน และวัดประสิทธิภาพในการเป็นผู้นำเท่านั้น..เสียงเฮ!ก็ดังไปทั่วไทย ไชโยๆ

...แต่ก็ มีคำถามกลับมาว่า ขณะนี้ผู้มีคุณสมบัติจะเป็น ผอ.สพท.ได้ คือ รอง ผอ.ทุกเขต ในโครงสร้าง ซึ่งมีประมาณ 1,040 ราย และ ผอ.รร.คศ.4 จะเชื่อได้ถึงเครื่องมือและกระบวนการวัดจะบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส มีธรรมาภิบาลได้แค่ไหน เพียงใด ในเมือระบบอุปถัมภ์ในสังคมไทยยังมาแรงไม่มีลด..ฝากถึง ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ. เมื่อได้ผู้เชี่ยวชาญกันมากมาย คุณภาพของเด็กนักเรียน ก็ต้องดีขึ้นตามสัดส่วน..ชิมิๆ !!เพ้ออีกแล้ว

...เมื่อ รัฐธรรมนูญ กำหนดให้รัฐจัดการศึกษาระดับ ปฐมวัย 3 ขวบ ต้องเริ่มตั้งแต่อายุ 0-3 ปี จากนี้ต่อไป ศธ.ต้องทำให้เด็กปฐมวัยกว่า 750,000 คน ต้องได้เรียน ซึ่งประเทศไทยมีเด็ก 4 ขวบ อยู่ในความรับผิดชอบของ การุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการ กพฐ. อยู่แล้ว 400,000 คน ส่วนที่เหลือไม่ทราบว่า จะหางบจากไหนมาดำเนินการ หารือกับสำนักงบฯแล้วทราบว่า ไม่มี จึงเป็นเรื่องที่น่าท้าทายยิ่งนัก..ในยามนี้ “นโยบายประชารัฐ” ช่วยได้ไหมจ๊ะ!!

...ฟังทางออกของ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา แล้ว เสียวซ่านกับความคิดใหญ่ตามงาน ต้องระดมทรัพยากรจากทุกภาคส่วน ตามด้วยการจัดตั้งกองทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ภายใน 1 ปี หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งจะทำให้มีเงินมาพัฒนาการศึกษา..แล้วการหาตัวคนมาเป็น ผู้จัดการกองทุน ล่ะ! มีกันอยู่ในใจแล้วใช่ไหม??..เฮ้อ!แล้ว อปท.มีไว้ทำไร

...ไม่ใช่เฉพาะ สพฐ. ที่มีปัญหา โรงเรียนเอกชน ทั้งโรงเรียนสามัญศึกษาและโรงเรียนนอกระบบในความดูแลของ พะโยม ชิณวงศ์ เลขาธิการ กช. ก็มีปัญหาไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน มีแนวโน้ม จะปิดกิจการลงเรื่อยๆ โรงเรียนขาดสภาพคล่องทางการเงิน จำนวนเด็กเข้าเรียนน้อย ครูลาออกหางานใหม่ที่มั่นคงกว่า..เตรียมชงของบฯจาก ครม. เพิ่มอีกประมาณ 4,170.32 ล้านบาทต่อปี มาแก้ปัญหา ได้ไม่ได้ต้องตามดู นี่ขนาด โอนอาชีวะเอกชนให้ สอศ. แล้วนะเนี่ยะ!!

...อุ๊ยตายหยังเขียด!! กับกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ศธ.ดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2556-2560 มีทั้งหมด 65 โครงการ ในช่วง 5 ปี เสร็จเพียง 6 โครงการเท่านั้น..แถมผลงานยังไม่ค่อยเป็นไปตามความต้องการของประเทศและการพัฒนาการศึกษา ไม่สอดคล้องนโยบายรัฐบาลอีกด้วย ดีนะที่ ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดศธ. ตาไวเหลือบไปเห็นซะก่อน ใครนะเป็นหัวเรือใหญ่ผู้รับผิดชอบ!??!  

...ต้องขอบคุณกับ ข้อมูลดีๆ มีประโยชน์สรรหามาบอกจาก บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) ที่มี นพวรรณ จุลกนิษฐ เป็นกรรมการผู้จัดการ สำรวจตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครมากที่สุดในรอบ 10 ปี จากเดิมคือ งานขาย แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา สายไอที ที่เคยอยู่อันดับ 2 ขยับขึ้นมาเป็นที่ 1 แทน อันดับ 3 เป็นวิศวกร อันดับ 4 งานการตลาด และ อันดับ 5 แบงก์และไฟแนนซ์

...ที่น่าสนใจ คือ จากกระแสดิจิทัล ทำให้มีตำแหน่งงาน ขาดแคลนถึง 85% ขณะที่เงินเดือนในสายดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง เพิ่มกว่า 61% ตอนนี้บริษัทหาคนยาก ขณะที่มีเพียง 2-3 มหาวิทยาลัยเท่านั้น ที่ผลิตคนสายไอทีโดยตรง แม้หลายแห่งพยายามสร้างบุคลากรด้านนี้ แต่ก็ยังไม่พอกับความต้องการ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. ได้ยินบ้างไหมเนี่ยะ???

...ปิดท้ายคงต้องเห็นความปรารถนาดีและตั้งใจดีของ ดร.พิษณุ ตุลสุข รองปลัด ศธ. และปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. และ ผอ.องค์การค้าฯ คนมีไฟแรงมาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง แค่คิด แก้ปัญหาครูมีหนี้สินวิกฤติ ด้วยการ เอาทุนเริ่มต้นของ สกสค. ที่มีอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท มาร่วมกับสถาบันการเงิน 3-4 แห่ง ที่อาสาและตั้งใจเข้ามาช่วยแล้ว..ล่าสุด! ยังต้องเกือบมารับภาระ หนังสือเรียนขององค์การค้าฯ มูลค่าร่วม 600 ล้านบาท ที่ตอนแรกมีทีท่าว่าอาจจะต้องเรียกกลับมาแก้ไขเนื้อหาใหม่ให้ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน

...เพราะถูกรุกหนัก มาจากทุกฝ่าย ทั้งจาก สำนักพิมพ์เอกชนแห่งหนึ่ง ว่าต้องไม่ใช่แค่ทำใบแทรกเท่านั้น แถมบิ๊ก สพฐ. การุณ สกุลประดิษฐ์ ยังขานรับขอให้แก้ไขในตัวหนังสือเรียนอีกด้วย

...นั่นหมายความว่า องค์การค้า สกสค. ยังจะต้อง หางบฯมาจัดพิมพ์ แก้ไขส่วนที่ผิดออกมาอีกถึง 5 ล้านเล่ม สังเกตว่า ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้าฯ ยินดีที่จะเป็นผู้ให้มากกว่าจะเป็นผู้โบ้ย สมเป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ ใสแจ๋ว!! ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ มาถึงปลายน้ำจริงๆ

...อย่างไรก็ตาม เมื่อในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการแก้แล้ว ฝาก “หมอธี” ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. ช่วยให้ใครลองลงไปดูว่า แบบเรียนของสำนักพิมพ์เอกชน แห่งใดมีเนื้อหาผิดบ้าง เริ่มกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ มาถึงปลายน้ำ และห้ามพิมพ์ใบแทรกเช่นกัน นะจ๊ะ!!..จึงจะเรียกว่าเท่าเทียมทันกันจริงๆ

                                                                                              โดย : “สิงห์ ราชดำเนิน”