วธ.ตั้ง!ศูนย์อำนวยความสะดวก ผู้ไปแสวงบุญสังเวชนียสถานอินเดีย-เนปาล

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยหลังนำคณะผู้บริหารเดินทางไปประกอบศาสนกิจและเตรียมความพร้อมศูนย์อำนวยความสะดวกผู้แสวงบุญ ณ สังเวชนียสถาน สถานที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน 4 ตำบล ประเทศอินเดียและเนปาล เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า

รูปแบบการส่งเสริมการเดินทางมาศึกษาสังเวชนียสถาน โดยมีพระธรรมทูตคอยให้ความรู้ความเข้าใจแต่ละสถานที่นั้น ขอชื่นชมว่าทำได้ดีมาก พระธรรมทูตสามารถสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เกร็ดความรู้แบบเข้าใจง่าย และแนวทางคำสอนไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง เป็นประโยชน์ต่อชาวพุทธ

ซึ่งจากการที่ วธ.ได้ส่งเสริมให้คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน เดินทางมาปฏิบัติธรรม และสักการะสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ได้ค้นพบว่าปัจจุบันการเดินทางของผู้แสวงบุญมีความสะดวกสบายมากขึ้น หลังจากที่ วธ.จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนผู้เดินทางไปประกอบศาสนกิจนมัสการสังเวชนียสถานในตำบลที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน จำนวน 9 แห่ง

ประกอบด้วย ประเทศเนปาล 1 แห่ง ได้แก่ วัดไทยลุมพินี และประเทศอินเดีย 8 แห่ง ได้แก่ 1.วัดไทยกุสินารา 2.วัดไทยพาราณสี 3.วัดไทยพุทธคยา 4.วัดไทยสารนาถ 5.วัดไทยเชตวันมหาวิหาร 6.วัดไทยนวราชรัตนาราม 7.วัดไทยนวมินทร์ธัมมิกราช และ 8.วัดอโยธยารามราชธานี

อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขยังได้ส่งคณะแพทย์มาดูแล ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศได้ริเริ่มส่งเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องหนังสือเดินทางและวีซ่าด้วย

“ข้อมูลจากพระธรรมทูต มีคนไทยเดินทางไปแสวงบุญ ปี 2558 ประมาณ 70,000 คน ในปี 2559 เพิ่มเป็นกว่า 80,000 คน ในภาพรวมถือได้ว่าคนไทยเดินทางไปแสวงบุญที่อินเดียมากเป็นอันดับที่ 4 รองลงมาจากไต้หวัน ศรีลังกา และพม่า”

รัฐมนตรีว่าการ วธ.กล่าวต่อว่า ดังนั้น แนวทางการดูแลผู้แสวงบุญชาวไทยในอนาคต ทาง วธ.เห็นว่าควรจะประสานความร่วมมือกับกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก เช่น กระทรวงคมนาคม เพื่อเพิ่มเที่ยวบินของสายการบินไทยให้บริการที่สนามบินพุทธคยา และพาราณสี ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว  เนื่องจากมีผู้แสวงบุญคนไทยเดินทางมาตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิ วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา

“ซึ่งทางคณะพระธรรมทูตก็เห็นด้วยที่จะให้ วธ.รับไปดำเนินการประสานความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม และการบินไทย เพื่อเพิ่มเที่ยวบิน รวมไปถึงชักชวนนักลงทุน เอกชน ศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนเรื่องที่พัก โรงแรม เพื่อรองรับผู้มาแสวงบุญที่อินเดียด้วย” นายวีระกล่าว