ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ชวน!สัมผัสวิถีชีวิตไทย ทดลองเป็นชาวนา 1 วัน ที่ “บ้านครูธานี”

ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรม “SOOK Travel” (กิจกรรมท่องเที่ยวแหล่งเรียนรู้) ตอน “ตะลุยทุ่ง เรียนรู้วิถีไทย ที่บ้านครูธานี” ณ “บ้านครูธานี” อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ประชาชนที่สนใจ ได้ลองเปิดประสบการณ์สัมผัสการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ศึกษาวิถีชีวิตอย่างไทย เพื่อเลือกเอาจุดเด่นมาปรับใช้กับวิถีปัจจุบัน

โดยจะได้ “สัมผัสวิถีชีวิตไทย” จากเรื่องใกล้ตัว อย่างที่อยู่อาศัย อาหารและขนมตำรับไทย เดินทางสัญจรด้วยการขี่ควาย นั่งเกวียน และขับรถกระแทะ รวมทั้งได้สัมผัสวิถีชีวิต “ชาวนา” ได้เรียนรู้ความรู้สึกของคนในอาชีพหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ได้เหยียบย่ำลงไปในผืนโคลนฉ่ำน้ำ และทำความเข้าใจกับความยากลำบากกว่าจะได้มาซึ่งข้าวสักเมล็ด ด้วยการลงมือแปรรูปจากข้าวในรวงสู่ข้าวสารด้วยตัวเอง เพื่อให้ตระหนักว่า “ข้าวแต่ละเมล็ดนั้นมีค่าเพียงใด” 

อนึ่ง “บ้านครูธานี” อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ถือเป็นพื้นที่เรียนรู้ที่จุดประกายการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีสุขภาวะที่ดี ซึ่งย้อนกลับไปราวปี พ.ศ.2541 “นายธานี หอมชื่น” ตัดสินใจทิ้งชีวิตการเป็นครูเมืองหลวง กลับมาที่บ้านเกิดซึ่งเขาเติบโตมา ผืนนาในละแวกนี้ยังคงขับเคลื่อนด้วยวิถีชีวิตของผู้คนสังคมเกษตรกรรม ลมหายใจอันอบอุ่นของพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียง และวิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ

จากประสบการณ์การเป็นครูในเมืองหลวง ทำให้เขาพบว่า “เด็กไทยรุ่นใหม่ขาดทักษะการใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเอง” เพราะการเข้ามาแทนที่ของเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก เมื่อเล็งเห็นถึงปัญหา “ครูธานี” จึงคิดหาวิธีการแก้ไข โดยเริ่มจากรากฐานต้นทุนเดิมที่ตัวเองมี คือวิถีชีวิตอย่างไทยชนบท มาผสานกับหลักการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในเรื่องของ “การทำเกษตรแบบผสมผสาน”

ที่นอกจากจะทำให้ชาวนามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแล้ว ยังเป็นหลักที่สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกวิถีชีวิต คือ “การลงทุนให้น้อย แต่ได้ผลลัพธ์ที่มาก” อีกหนึ่งหลักการที่ “ครูธานี” ได้นำมาใช้กับตัวเองและสอนให้บุคลากรใกล้ชิดได้ปฏิบัติตาม คือ “การใช้ชีวิตแบบพอเพียง” ซึ่งมิได้หมายถึงการประหยัดอดออมจนต้องใช้ชีวิตลำบากกว่าที่เคยเป็น แต่หมายถึง “การใช้ชีวิตด้วยความพอดี คือ พอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันที่ดี ภายใต้เงื่อนไขของการมีความรู้และคุณธรรม”

“ครูธานี หอมชื่น” เล่าว่า เด็กๆ ในอดีตกว่าจะได้ของเล่นมาสักชิ้นหนึ่ง จะต้องช่วยผู้ใหญ่ทำงานตามความสามารถของตนเสียก่อน เมื่อเสร็จสิ้นจากภารกิจ ผู้ใหญ่จึงจะลงมือทำของเล่นจากวัสดุธรรมชาติหาได้ในพื้นที่ให้กับเด็กๆ ส่วนการทำกิจกรรมในวันนี้ ผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคุณพ่อ คุณแม่ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมหนุ่มสาวถึงวัยผู้เฒ่า ช่วยกันลงแรงประดิษฐ์ของเล่นที่ต้องใช้ทั้งความสามารถและความตั้งใจให้กับเด็กๆ ทั้งม้าก้านกล้วย ปืนก้านกล้วย และดาบทางมะพร้าว เพื่อให้เด็กทุกคนได้ “ออกมาเล่น (Active Play)” กันอย่างสร้างสรรค์ภายในสวน

“เป็นการสนับสนุนการเล่นอย่างมีคุณภาพและเกิดประโยชน์ และยังสนับสนุนให้ทุกคนได้มีกิจกรรมทางกาย (Physical Activity) เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นนานาโรคร้ายอีกด้วย” ครูธานี หอมชื่น กล่าว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร.091-049-6063