“กพร.” จับมือ!ราชทัณฑ์ คืนคนดีมีฝีมือสู่สังคม ดีเดย์ 19 ธ.ค.นี้ทั่วประเทศ


นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการที่กรมราชทัณฑ์เตรียมแผนรองรับการปล่อยตัวผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และอภัยโทษลดโทษปล่อยตัว ตามพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ พ.ศ.2559 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10

โดยมีหน่วยงานต่างๆ ร่วมดำเนินการ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงาน ภายใต้การนำของ พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีนโยบายส่งเสริมการมีงานทำ และการฝึกทักษะอาชีพให้กับคนทุกกลุ่มอยู่แล้ว ตามมาตรการ 8 วาระเร่งด่วนปฏิรูปเพื่อความสำเร็จของการเดินหน้าพัฒนากำลังคนของประเทศ รวมถึงการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

สำหรับการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) เป็นหน่วยงานหลักฝึกอาชีพตามความต้องการของตลาดแรงงาน ให้กับผู้ที่จะได้รับอภัยโทษพร้อมกับทุกหน่วยงานในสังกัด จะให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน สวัสดิการ การประกันสังคม รวมถึงการเข้าถึงแหล่งงานด้วย

ความร่วมมือครั้งนี้ จะดำเนินการฝึกอาชีพให้กับผู้ที่จะได้รับอภัยโทษและนักโทษชั้นดีโดยเริ่มพร้อมเพรียงกันทั้ง 77 จังหวัด ในวันที่ 19 ธันวาคม 2559 เนื่องจากเป็นตัวเลขที่เป็นมหามงคล คือ 1+9 เท่ากับ 10 หมายถึง รัชกาลที่ 10 และ เลข 9 หมายถึง รัชกาลที่ 9 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ทั้ง 2 พระองค์

โดยจะดำเนินการฝึกอย่างน้อยจังหวัดละ 1 รุ่นๆ ละ 20 คน รวม 1,540 คน สาขาที่ทำการฝึก ส่วนใหญ่เป็นสาขาช่างที่อยู่ในความต้องการของตลาดแรงงาน เช่น  ช่างปูกระเบื้อง ช่างเชื่อม ช่างทำมุ้งลวดเหล็กดัด ช่างซ่อมบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก จึงเป็นการสร้างโอกาสการมีงานทำได้สูง และยังมีโอกาสเป็นเจ้าของกิจการได้เองอีกด้วย

“สำหรับการฝึกอาชีพตามกลุ่มเป้าหมายนี้ กพร.มีการดำเนินการมาโดยตลอด ฝึกไม่น้อยกว่าปีละ 2,000 คน เพื่อให้เป็นกำลังแรงงานที่มีฝีมือ ส่งเสริมการมีงานทำสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจ สังคม อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังดำเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ให้กับผู้ที่มีทักษะในสาขาต่างๆ โดยเฉพาะสาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร เพื่อใช้ประกอบการประเมินความรู้ความสามารถในสาขาดังกล่าวต่อไป” อธิบดี กพร.กล่าว