“เลขาฯ กกอ.” เผยความคืบหน้า!สางปัญหาธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัย 4 แห่ง


ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ กกอ.เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานของคณะบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่แทนสภามหาวิทยาลัยในการแก้ปัญหาธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัย 4 แห่ง

ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) สุรินทร์, มรภ.ชัยภูมิ, มหาวิทยาลัยบูรพา (มบ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก ที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งให้จัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาล

โดยได้รายงานว่า การแก้ปัญหาต่างๆ มีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าไม่เกิน 6 เดือนจากที่กำหนดไว้ น่าจะแก้ปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ กกอ.ได้กำชับให้เร่งแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน เพื่อมหาวิทยาลัยทั้ง 4 แห่ง จะได้กลับมาจัดการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพ

ทั้งนี้ ในส่วนของ มรภ.ชัยภูมิ ได้รายงานเบื้องต้นว่ามีปัญหาด้านการเงินอย่างมาก เนื่องจากมหาวิทยาลัยมีรายได้น้อยมาก เพราะจำนวนนักศึกษาลดลง ขณะที่เงินรายได้ส่วนใหญ่ต้องจ่ายเป็นค่าตอบแทนบุคลากร ซึ่งทางมหาวิทยาลัยกำลังหาวิธีแก้ปัญหาอยู่

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการเปิดสอนหลักสูตรที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กำหนด โดยเฉพาะหลักสูตรนอกสถานที่ตั้ง ทางมหาวิทยาลัยจึงได้นำการจัดการเรียนการสอนนอกสถานที่ตั้งทั้งหมดกลับมาในที่ตั้งหมดแล้ว รวมทั้งแก้ปัญหาข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

ส่วน มรภ.สุรินทร์ พบปัญหาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรต่างๆ โดยเฉพาะระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ที่อาจารย์ประจำหลักสูตรไม่ครบตามมาตรฐาน สกอ.กำหนด ทางมหาวิทยาลัยจึงมีมติให้หลักสูตรที่มีปัญหา ยุติการรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2560 แล้ว ส่วน มบ.และ มทร.ตะวันออก กำลังเร่งแก้ปัญหาต่างๆ ด้วย เช่นกัน

เลขาธิการ กกอ.กล่าวต่อว่า จากปัญหาธรรมาภิบาลที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพมาตรฐานการจัดการศึกษา และความเชื่อมั่นของประชาชน ดังนั้น ตนจึงได้มีคำสั่ง สกอ.เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานศึกษา และพัฒนาแนวทางการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาขึ้น โดยตนเป็นประธาน

“คณะทำงานชุดนี้ จะมีอำนาจหน้าที่ 1.ศึกษา วิเคราะห์และจัดทำแนวทางการเสริมสร้างธรรมาภิบาลใน สกอ.และสถาบันอุดมศึกษา 2.ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของสถาบันอุดมศึกษา และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการจัดทำแนวทางการเสริมสร้างธรรมาภิบาล 3.เสนอแนะแนวทางการพัฒนาการเสริมสร้างธรรมาภิบาล และ 4.ประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสร้างธรรมาภิบาล เพื่อผลักดันให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง” ดร.สุภัทรกล่าว