“มทร.ธัญบุรี” เปิดห้องเรียน!บริหารฯ สร้างผู้ประกอบการธุรกิจยุค 4.0


จากการที่รัฐบาลให้นโยบายในการขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ทุกมหาวิทยาลัยต่างก็ปรับตัวเพื่อให้สอดรับนโยบายดังกล่าว ดังเช่นคณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี ได้สร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้อย่างเต็มรูปแบบ จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนในชาติ เตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลไปถึงเศรษฐกิจและสังคม 4.0

ทั้งนี้ ผศ.ดร.นาถรพี ชัยมงคล คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เปิดเผยว่า การบริหารธุรกิจเป็นเรื่องที่สำคัญ มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และคาบเกี่ยวทุกศาสตร์สาขาวิชาชีพ ยิ่งในปัจจุบันด้วยแล้วต้องเน้นย้ำ หรือเพิ่มเติมเรื่องดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ตามเทรนด์ของโลก

ขณะเดียวกันคณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี ก็ได้ปรับตนเองให้เป็นแหล่งผลิตกำลังคนเพื่อสนองตอบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสภาพแวดล้อม เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ เสริมสร้างความเป็นมืออาชีพ พร้อมเข้าสู่โลกการทำงานต่อไป

ต้องยอมรับว่าหลักสูตรบริหารธุรกิจ เปิดสอนแถบทุกมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความเป็นบริหารธุรกิจที่ยาวนานถึง 41 ปี มีคณาจารย์มืออาชีพกว่า 100 คน และมีจำนวนบัณฑิตเกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ มีงานทำ บางส่วนก็เข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น

“อีกทั้งหลักสูตรของเรามีความทันสมัย สอดรับนโยบายการผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติมืออาชีพ หรือ Hands-On ของมหาวิทยาลัย และสร้างห้องปฏิบัติการเพื่อการเรียนรู้สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1-4 นักศึกษาปริญญาโทและเอก และสำหรับการฝึกอบรม บ่มเพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี”

ผศ.ดร.นาถรพี กล่าวต่อว่า ห้องปฏิบัติการที่สร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้ในการเรียนการสอนแล้วในปัจจุบัน คือ ห้องปฏิบัติการทางโปรแกรม SAP เป็นโปรแกรมที่บริษัทขนาดใหญ่แทบทุกบริษัททั้งไทยและต่างประเทศ นำมาใช้เพื่อช่วยให้การทำงานมีความง่ายและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งมีอยู่หลายโมดูลที่สอดประสานกัน

โดยปกติแล้วการเข้ารับการอบรมในโปรแกรมนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ถือว่าคณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี เป็น 1 ในสถาบันอุดมศึกษาเพียงไม่กี่แห่งที่นำโปรแกรมนี้มาใช้ในการเรียนการสอน ซึ่งจะทำให้นักศึกษามีความพร้อมและมีโอกาสในการทำงานทันทีที่จบการศึกษา

“ห้องปฏิบัติการหลักทรัพย์” สำหรับการวิเคราะห์หลักทรัพย์ ซึ่งจะแสดงข้อมูลแบบ Real Time เพื่อการตัดสินใจในการลงทุน พร้อมโปรแกรม Bisnews ที่ใช้วิเคราะห์หุ้นเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน ทำให้นักศึกษามีสมรรถนะในการวิเคราะห์และซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงฝึกทักษะการแนะนำบุคคลอื่นที่ต้องการลงทุน และยังใช้ฝึกอบรมบุคลากรทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย

“และห้อง Smart Classroom เป็นห้องเรียนเพื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย สามารถนำเสนอในรูปแบบ Interactive ซึ่งสร้างการมีส่วนร่วมกับนักศึกษาได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถบันทึกการสอนของอาจารย์และไฟล์เอกสาร เพื่อการทบทวนของนักศึกษา อันจะทำให้การเรียนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

ผศ.ดร.นาถรพี กล่าวสรุปทิ้งท้ายว่า ทิศทางของคณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี ชัดเจนสอดรับกับนโยบายการขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะในด้านภาคธุรกิจเอสเอ็มอี ดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อสร้างและพัฒนาบัณฑิตที่มีคุณภาพ มีสมรรถนะสูง ออกสู่โลกการทำงานและเป็นผู้ประกอบการต่อไป

ด้าน นางธฤษญา กองแก้ว อาจารย์สาขาการบัญชีและการเงิน กล่าวเสริมว่า เป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมให้นักศึกษารู้จักการลงทุนในตลาดทุนแบบเห็นภาพจริง หากนักลงทุนมีหลักการลงทุน มีเทคโนโลยีช่วยสนับสนุน และมีความเป็นสากลเช่นนี้ ความเสี่ยงในการลงทุนก็จะต่ำ ผลตอบแทนการลงทุนก็ย่อมดีมากขึ้น

“ส่วนคุณสมบัติของนักบริหารธุรกิจที่ดีนั้น ต้องมีหลักในการแข่งขันทางธุรกิจ กล้าหาญ คิดต่างและไม่หยุดนิ่ง อัพเดตความรู้สม่ำเสมอ และหาช่องทางการลงทุนใหม่ๆ ที่สร้างผลตอบแทนที่ดี”

ทางด้าน น.ส.พรยมลวรรณ รมย์วรพล นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการเงิน กล่าวว่า ห้องเรียนที่ทันสมัยทำให้ได้เรียนรู้เพิ่มมากขึ้น ถือว่าเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ที่จะนำไปใช้ในการทำงานได้จริงในอนาคต ทั้งยังมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการธุรกิจให้กับนักศึกษาอีกด้วย

ขณะที่ นายธีระวัฒน์ สวยสม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการเงิน เผยความรู้สึกว่า ตนเองมีความพร้อมในการปฏิบัติงานหลายด้าน นอกจากความตั้งใจแล้ว ยังมีความรู้เกี่ยวกับโปรแกรม SAP โปรแกรม Bisnews ซึ่งทำให้การปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่น ลดระยะเวลาในเรียนรู้การทำงานจากพี่ๆ องค์กร แสดงให้เห็นถึงความพร้อมและศักยภาพ รวมถึงสร้างโอกาสการมีงานทำทันทีที่จบการศึกษา