“ม.ธุรกิจบัณฑิตย์” เปิดตัว 3 วิทยาลัยใหม่ ชู!ช่วยขับเคลื่อน Thailand 4.0


ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้แถลงข่าวเปิดตัว 3 วิทยาลัยใหม่ สู่การเป็นผู้นำไทยแลนด์ 4.0 โดยเริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 ได้แก่

1.วิทยาลัยบริหารธุรกิจเชิงนวัตกรรมและการบัญชี หรือ ซีบา (College of Innovative Business and Accountancy : CIBA) มี ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู เป็นคณบดีวิทยาลัย ประกอบด้วย 4 คณะวิชา ได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ, คณะการบัญชี, คณะเศรษฐศษสตร์ และวิทยาลัยนานาชาติ มารวมอยู่ภายใต้ชื่อใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม

สำหรับรูปแบบการบริหารจัดการ จะเป็นแบบ Innovative management ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันของ 4 คณะวิชา 10 สาขาวิชา และ 15 หลักสูตร ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยเปิดสอนหลักสูตรภาษาไทย หลักสูตร International program หลักสูตร Bilingual และ หลักสูตร Trilingual ทั้งนี้ ในทุกๆ หลักสูตรถูกออกแบบให้เป็นหลักสูตรในเชิงนวัตกรรม

2.วิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ หรือ ไซท์ (College of Innovative Technology and Engineering : CITE) มี ผศ.ดร.วรพล พงษ์เพ็ชร เป็นคณบดี วิทยาลัย เป็นการรวมระหว่าง 2 คณะวิชา ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างศาสตร์ทางด้านไอที และวิศวกรรม โดยมุ่งเน้น “ดาต้า” (Data) เป็นส่วนสำคัญ พร้อมทั้งบูรณาการทุกหลักสูตรที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน

อีกทั้ง CITE ยังมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรเพื่อผลักดันเป้าหมาย Thailand 4.0 ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ธุรกิจ และความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีแนวใหม่เพื่อพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางวิศวกรรมศาสตร์

3.วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ หรือ ซิม (College of Integrative Medicine : CIM) ที่เราเรียกได้ว่า “การแพทย์แห่งน้ำใจ” มี นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล เป็นคณบดี โดยเป็นสถาบันที่บ่มเพาะแพทย์และบุคลากรการแพทย์ ด้วยแนวคิด “สอนคนให้เป็นหมอ” และ “สอนหมอให้เป็นคน” พร้อมผลักดันธุรกิจด้านการส่งเสริมสุขภาพ บำบัดโรค ฟื้นคืนสุขภาพ และการชะลอวัยให้กับผู้คนร่วมสมัย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ Thailand 4.0 เช่นกัน

อธิการบดี ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเข้าใจว่ามีหลายคนมองภาพว่าทำไมมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จึงรวมคณะวิชาต่างๆ เข้ามาเป็นวิทยาลัย โดยคิดว่าเป็นเพราะนักศึกษาในคณะดังกล่าวน้อยลง ซึ่งตนอยากชี้แจงว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่ นักศึกษาคณะดังกล่าวที่เรามาควบรวมจัดเป็นวิทยาลัยนั้น ในปีผ่านมายังจัดเป็นคณะสาขาที่ได้รับความนิยมอยู่