“บิ๊กตู่” เปิดงาน Startup Thailand & Digital Thailand ภูมิภาค 2016 คึกคัก! เปิดตัวภูเก็ต “ฮับสมาร์ทซิตี้”


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงาน Startup Thailand & Digital Thailand ภูมิภาค 2016 ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ณ ดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 16-18 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะเจ้าภาพหลักของงาน Startup Thailand 2016 กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นฐานเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ และได้ดำเนินมาตรการส่งเสริมทุกรูปแบบ อาทิ

การสร้างผู้ประกอบการที่มีความสามารถและและดึงดูดคนเก่งจากทั่วโลกมาเมืองไทย การปรับกฎหมายธุรกิจเพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพ และสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพเติบโตได้อย่างรวดเร็ว การสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในสตาร์ทอัพ ส่งเสริมกิจการร่วมลงทุน และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของสตาร์ทอัพ เป็นต้น

“โดยการจัดงาน Startup Thailand & Digital Thailand 2016 ทั้งหมดในปีนี้ เป็นการประกาศจุดยืนและความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะใช้ฐานเศรษฐกิจนี้ เพื่อการขับเคลื่อนสู่ไทยแลนด์ 4.0”

งาน Startup Thailand & Digital Thailand ภูมิภาค 2016 ที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการจัดงาน Startup Thailand และ Digital Thailand ที่กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และขอนแก่น โดยในพิธีเปิดได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การส่งเสริมภูเก็ตสู่ศูนย์กลางธุรกิจสตาร์ทอัพและเมืองอัจฉริยะ”

นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาและบรรยายพิเศษ การจัดแสดงบูธนิทรรศการทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ของผู้ประกอบการสตาร์ทอัพและวิทยากรทั้งในและต่างประเทศ บูธแหล่งเงินทุน บูธให้คำปรึกษา รวมกว่า 200 บูธ

“เชื่อว่ามีประชาชน นักเรียน นักศึกษา นักลงทุน ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และสตาร์ทอัพ จากทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก" ดร.พิเชฐ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "การส่งเสริมภูเก็ตสู่ศูนย์กลางธุรกิจสตาร์ทอัพและมืออัจฉริยะ" สรุปสาระสำคัญว่า วันนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการสร้างสะพานเชื่อมโยงบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมกันอย่างประชารัฐอย่างจริงจัง โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของทุกคนอย่างเท่าเทียมตามกฎหมายสากล

ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการไปในทิศทางที่ดี เพราะความร่วมมือกันของพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน โดยข้าราชการและรัฐบาลมีหน้าที่ทำให้เกิดความเชื่อมโยงอย่างทั่วถึงในทุกภูมิภาค ทั้ง 76 จังหวัดให้ได้

อย่างไรก็ตาม วันนี้ประเทศไทยมีความพร้อมในด้านต่างๆ มากมาย เหลือเพียงแต่การคิดหาวิธีว่าจะขับเคลื่อนไปพร้อมกันได้อย่างไรในทุกระดับชั้น ให้มีการร่วมมือกันโดยให้ยึดคติที่ว่า "จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในทุกระดับ เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีกำลังที่เข้มแข็งสามารถเติบโตได้ ทำร่วมกันอย่างเป็นระบบ

“นำธุรกิจ SMEs กว่าล้านแห่งเข้ามาอยู่ในทะเบียนทำเนียบ SMEs ประเทศไทยให้ได้ ทำให้ถูกต้องตามหลักกฎหมายสากล หาจุดเชื่อมต่อ สร้างสะพานที่เชื่อมโยงกันอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม และมีธรรมาภิบาล ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและไว้ใจ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ด้านนางทรงพร โกมลสุรเดช ปลัดกระทรวงไอซีที ในฐานะเจ้าภาพหลักงาน Digital Thailand 2016 กล่าวว่า รัฐบาลได้เล็งเห็นศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตในการพัฒนาเป็น Smart City จึงคัดเลือกจังหวัดภูเก็ตให้เป็นหนึ่งในสองจังหวัดที่เป็นซุปเปอร์คลัสเตอร์ด้านดิจิทัล คู่กับจังหวัดเชียงใหม่ โดยสนับสนุนการพัฒนาและวางโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น

การจัดทำโครงข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง ขยายจุดให้บริการฟรี Wi-fi 1,000 จุด การแก้ไขปัญหาจราจรโดยระบบเซนเซอร์อัจฉริยะ การจัดทำศูนย์ภูเก็ต สมาร์ท ซิตี้ อินโนเวชั่น (Phuket Smart City Innovation Park) เพื่อสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล (Super Cluster Digital)

"นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนภูเก็ตไปสู่ “Phuket Smart City 2020” ซึ่งการจัดงาน Startup Thailand & Digital Thailand 2016 ในครั้งนี้ นับว่าเป็นการเปิดตัวของ Phuket Smart City อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเป็นต้นแบบของการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลที่ขยายผลสู่ภูมิภาคต่างๆ ของประเทศต่อไป"