ชม!ไอเดีย น.ศ.สถาปัตย์ มทร.ธัญบุรี ออกแบบ!ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรม 6 จังหวัดใต้ตอนล่าง...อีกหนทางคืน “ความสงบสุข”

การออกแบบ “ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรม 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง” เป็นผลงานวิทยานิพนธ์ ของ “ดาว” นางสาวคุณากร คีตะโสภณ นักศึกษาสาขาวิชาสถาปัตยกรรมภายใน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี

โดยมีอาจารย์เรวัฒน์ อามิน เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนเข้าใจในวัฒนธรรม

สกู๊ป แวดวงการศึกษา นางสาวคุณากร เล่าที่มาแนวคิดการออกแบบ “ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรม 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง” ว่า ในสังคมหนึ่งๆ ย่อมมีหลากหลายวัฒนธรรม แต่ละวัฒนธรรมก็มีอัตลักษณ์ที่เด่นชัด แตกต่างกันไป เนื่องด้วยเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ หรือแต่ทัศนคตินั้นๆ

“เมื่อเกิดความต่าง ย่อมเกิดความไม่เข้าใจ ส่งผลให้เกิดคำถามขึ้นมากมาย เพราะเหตุใดปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงเกิดขึ้นเป็นเวลาช้านาน เพราะเหตุใดจึงเกิดคำว่า แบ่งแยกดินแดน เพราะเหตุใดคนในชุมชนถึงทะเลาะกันเอง เพราะเหตุใดประเพณีบางอย่างถูกกลืนหายไป”

นี่เป็นเพียงคำถามบางส่วนที่ไม่สามารถหาคำตอบที่กระจ่างได้

ในพื้นที่จังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานี สงขลา สตูล และตรัง เป็นจังหวัดภาคใต้ตอนล่างที่มีความเกี่ยวโยงกันในทางประวัติศาสตร์ ทำให้เกิดวัฒนธรรมต่างๆ ประกอบด้วย วัฒนธรรมไทยพุทธหรือวัฒนธรรมถิ่นภาคใต้ วัฒนธรรมไทยเชื้อสายจีน วัฒนธรรมไทยมุสลิม วัฒนธรรมไทยเชื้อสายมุสลิม-จีน วัฒนธรรมไทยใหม่หรือมอแกน และวัฒนธรรมซาไกหรือชาวป่า เป็นต้น

จากคำถามข้างต้น เกิดการหาคำตอบ ซึ่งสาเหตุมาจากความไม่เข้าใจในวัฒนธรรม ความเชื่อ ทัศนคติที่ผิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมตนเอง การไม่เคารพในวัฒนธรรมอื่น จึงเกิดปัญหาเหล่านั้นขึ้น

สกู๊ป แวดวงการศึกษา “ดิฉันเป็นคนจังหวัดยะลา จึงอยากใช้ความรู้ที่เรียนมา จึงได้คิดโครงการเสนอแนะศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชน หรือคนต่างชุมชนเข้าใจในวัฒนธรรม จากการเรียนรู้ผ่านงานสถาปัตยกรรมภายใน ออกแบบพื้นที่สาหรับคนในชุมชนหรือคนต่างชุมชน สามารถมาแลกเปลี่ยนทัศนคติร่วมกัน”

เมื่อเกิดความเข้าใจในวัฒนธรรมตนเองและวัฒนธรรมอื่นแล้ว ย่อมเกิดการอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตามนโยบายของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่มีพันธกิจต้องการความสงบสุขกลับคืนสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

โดย ศอ.บต.มีนโยบายต้องการสร้างความรู้ ความเข้าใจ เพื่อได้ตระหนักและเคารพคุณค่าของลักษณะเฉพาะทางศาสนา วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งต้องการปรับทัศนคติความคิด ความเชื่อของผู้ที่มีความเห็นต่าง โดยกระบวนการพูด และให้ความสำคัญกับพหุวัฒนธรรม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

นางสาวคุณากร อธิบายถึงการออกแบบ “ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรม 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง” ว่า ผู้ใช้บริการจะสามารถเข้าถึงได้ เป็นพื้นที่บริการทั้งหมด 4901.5 ตารางเมตร ประกอบด้วย ส่วนต้อนรับ 172 ตารางเมตร, ส่วนพักคอย 105 ตารางเมตร

นิทรรศการชั่วคราว 368 ตารางเมตร, นิทรรศการถาวร 3250 ตารางเมตร, ร้านขายของที่ระลึก 102 ตารางเมตร, ร้านกาแฟ 47.5 ตารางเมตร, โรงอาหาร 555 ตารางเมตร และ ห้อง Auditorium 392 ตารางเมตร ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. รอบละ 20 คน ใช้เวลาในการเข้าชม 1.30 ชม.

“โดยแนวคิดในการออกแบบจะใช้มุมกล้องในการเล่าเรื่อง มุมกล้องในที่นี้ คือมุมมองที่ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้ผ่านม่านตาของตนเอง ในการเล่าเรื่อง เป็นการถ่ายทอดเรื่องราว เนื้อหา ประวัติศาสตร์ ผ่านการมอง การได้ยิน การสัมผัส การอ่าน ที่ว่าง”

กล่าวคือ พื้นที่เรียนรู้ผ่านการแทนความหมายของความขัดแย้ง เพื่อให้ผู้เข้าชมเรียนรู้แบบซึมซับผ่านแต่ละที่ว่าง และได้เข้าใจด้วยตัวของเขาเอง

“ดาว” อธิบายต่อว่า สำหรับ 1 ชั่วโมง 30 นาที ในการเรียนรู้แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก คือ 1. เรียนรู้ประวัติ สาเหตุความขัดแย้ง เรียนรู้แต่ละวัฒนธรรมแบบเลือก 2.เรียนรู้ความขัดแย้งในวัฒนธรรม โดยการเรียนรู้นี้จะบังคับการเดิน และ 3.แชร์ความคิดเห็นโดยการเขียน การอ่าน การฟัง

ในการเดินชมภายใน “ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรม 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง” บังคับให้เรียนรู้ทั้งหมด 7 ห้อง ห้องเรียนรู้เกิดจากการแทนความหมาย การแทนค่าความรู้สึก ที่ต้องการให้ผู้เข้าชมเรียนรู้และเกิดความรู้สึกต่างๆ ส่งผลให้ผู้เรียนรู้นึกคิดตามจนรู้สึก

สกู๊ป แวดวงการศึกษา โดยทั้ง 7 ห้อง มีดังต่อไปนี้

1.ห้องการเรียนรู้ ดูถูก-ล้อเลียน เป็นการแทนค่าการเรียนรู้ผ่านน้ำ ระหว่างผู้เรียน A กับ B การดูถูกจากการถูกกระทำผ่านน้ำโดย B ส่วนการล้อเลียน ผู้เรียน B เรียนรู้ด้วยตัวเอง ในเรื่องกายภาพภายนอก

2.ห้องการเรียนรู้ ความไม่เข้าใจ-ความระแวง เป็นการแทนค่าการมองเห็นผ่านช่อง ผู้เรียน A มองผ่านช่องเห็นผู้เรียน B เกิดความไม่เข้าใจในกำรกระทำ ส่วนความระแวงถูกแทนค่าด้วยการเดินบนบันได ความไม่แน่นอนของลูกตั้งลูกนอนบันได ระดับความสูงบันไดจากพื้นห้อง

3.ห้องการเรียนรู้การเข้าใจผิด-การใส่ร้ายป้ายสี เป็นการแทนค่าการเรียนรู้ ผ่านการมองมิติภาพเฉกเช่นกำรมองภาพลวงตา แต่เป็นการมองด้วยระยะ แสงเงา สิ่งที่เห็นครั้งแรกผิดต่างจากการมองอีกครั้งหนึ่ง

4.ห้องการเรียนรู้การทะเลาะกัน การเรียนรู้นี้ต้องอาศัยการเกื้อกันของผู้เรียนรู้ Aและ B เพราะเป็นการทะเลาะ การแย่งพื้นที่ว่างระหว่างกัน การเดินของผู้เรียนหนึ่งส่งผลกระทบต่อผู้เรียนหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการสร้างเหตุต่อการรู้สึกขัดใจ แต่ถ้ำผู้เรียนทั้งสองเกิดการเกื้อต่อกันการช่วยเหลือกันก็สามารถแบ่งปันพื้นที่ว่างร่วมกันได้

5.ห้องการเรียนรู้กำรกลั่นแกล้ง เป็นการแทนค่าการกระทบกระทั่งต่อตนเองแทนค่าผลกระทบต่อตัวเองว่าถ้าโดนกลั่นแกล้งจะเป็นอย่างไร โดยถูกแทนค่าโดยการเดิน หากผู้เรียนเดินบนผ้าเพียงทางเดียวก็จะเปียก ไม่สามารถเดินต่อไปได้ แต่ถ้าผู้เรียนเรียนรู้โดยการเกื้อกันรอ ผู้เรียนรู้อีกทางหนึ่งและเดินพร้อมกัน ก็สามารถเดินผ่านไปได้ การเรียนรู้รู้เป็นการตัดสินใจของผู้เรียนรู้เองว่าจะกลั่นแกล้งตนเองหรือขอรับความช่วยเหลือ

6.ห้องการเรียนรู้การเหยียด-การประณาม แทนค่าด้วยการเดินที่ค่อยๆถูกบีบเสียงด่าทอที่ค่อยๆดัง และถูกมองไม่ดีจากผู้เรียนอีกกลุ่มหนึ่ง ทำให้รู้สึกถึงการถูกประณาม ผู้เรียนB ใช้สายตำที่มองไม่ดีผ่านกระจกด้วยการใช้สายตาอ่านข้อความที่ตึงเครียดเป็นการไม่ตั้งใจกระทำ

และ 7.ห้องการเรียนรู้การหลงลืม-การแปรเปลี่ยน เป็นการแทนค่าการแปรเปลี่ยนของพื้นที่ ผนังผ่านการกระทำของผู้เรียน ส่วนการหลงลืมแทนค่ำโดยออกแบบที่ว่างให้รกเดินลำบากทำให้ผู้เรียนหมกมุ่นกับพื้นที่นั้น แล้วก็มีเสียงดังชั่วขณะหนึ่ง ทำให้ผู้เรียนหยุดคิดไปช่วงจังหวะหนึ่งเฉกเช่นการหลงลืมวัฒนธรรมตัวเองไปช่วงจังหวะหนึ่ง

“ดาว” นางสาวคุณากร คีตะโสภณ ตบท้ายด้วยประโยชน์ในการศึกษาภายใน “ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรม 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง” จะทำให้เกิดการเรียนรู้และรับทราบถึงวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ อย่างเข้าใจ โดยผ่านการถ่ายทอดจากงานออกแบบสถาปัตยกรรมภายใน

โดย : ชลธิชา ศรีอุบล