คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 29 ประจำปี 2559 เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมี ดร.ประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มาเป็นประธาน
ร่วมด้วย ดร.สรรณพ นาควานิช ตัวแทนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายดิสัน แหล่ทองคำ รองอธิการบดี ม.ราชภัฏภูเก็ต นายรังสรรค์ พลสมัคร คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ฯ ตลอดจนบุคลากร นักศึกษา และนักเรียนเข้าร่วม ณ หอประชุมใหญ่ ม.ราชภัฏภูเก็ต
นายรังสรรค์ กล่าวว่า สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 29 จัดขึ้นเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย ที่ทรงเริ่มต้นประวัติศาสตร์การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย และน้อมระลึกในพระมหากรุณาธิคุณองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน ซึ่งทรงอุทิศพระสติปัญญาศึกษาหาความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อนำมาพัฒนาชาติในด้านต่างๆ
และเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา ครู ตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาเยาวชนของชาติทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพร้อมแข่งขันในเวทีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจังหวัดภูเก็ต จัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติขึ้น ในระหว่างวันที่ 17-19 สิงหาคม 2559 เมื่อเร็วๆ นี้ ภายใต้หัวข้อ “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม”
ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ นิทรรศการด้านวิชาการของสาขาวิชาต่างๆ ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะเทคโนโลยีการเกษตร คณะครุศาสตร์ สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน และหมู่บ้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หมู่บ้านผลิตเห็ดอินทรีย์ บ้านลิพอนหัวหาร-บ่อแร่
การประกวดและการแข่งขันต่างๆ เช่น การประกวดสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การประกวดสื่อการสอนทางวิทยาศาสตร์ (ประเภทอุปกรณ์สาธิต) การประกวดภาพวาดตามจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ การประกวดภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การแข่งขันตอบปัญหาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการแข่งขันวาดภาพคอมพิวเตอร์
โดยกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสเรียนรู้วิทยาศาสตร์จากประสบการณ์จริง เพื่อกระตุ้นความสนใจในการเรียนรู้และปลูกฝังแนวคิดแบบวิทยาศาสตร์ และเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต
|
|