“ราชภัฏเทพสตรี” สรรหานายกสภามหาวิทยาลัยใหม่ เหตุขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.


ตามที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ได้รับการแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ให้ทบทวนเรื่องการแต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัย เนื่องจากขัดต่อคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 39/2559 เรื่องการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งนายกสภา และกรรมการสภามหาวิทยาลัย

ซึ่งในคำสั่งหัวหน้า คสช.กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย 2 แห่งแล้ว อาจรับตำแหน่งนายกสภา หรือกรรมการสภาอีกได้ไม่เกิน 1 แห่ง ส่วนผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกสภา อยู่ 1 แห่ง อาจจะรับตำแหน่งนายกสภา หรือกรรมการสภา ได้อีกไม่เกิน 2 แห่ง

กรณีดำรงตำแหน่งกรรมการสภาครบ 4 แห่ง ไม่อาจรับตำแหน่งนายกสภา หรือกรรมการสภาได้อีก เนื่องจากการดำรงตำแหน่งนายกสภา กรรมการสภาหลายแห่ง ทำให้การบริหารมหาวิทยาลัยขาดประสิทธิภาพ

ดังนั้น ล่าสุดในการประชุมสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ครั้งที่ 7/2559 เมื่อเร็วๆ นี้ สภามหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จึงมีมติพิจารณาแต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยใหม่ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา และให้มหาวิทยาลัยแจ้งผลการดำเนินการให้ สกอ.ทราบ

และเห็นชอบให้ รองศาสตราจารย์สุรชัย ขวัญเมือง กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานกรรมการสรรหานายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี

โดยระหว่างนี้ ศาสตราจารย์วิจิตร ศรีสอ้าน ยังคงปฏิบัติหน้าที่นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรีต่อไป จนกว่าจะได้มีนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบตามมาตรา 17 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547

พร้อมกันนี้ ทางมหาวิทยาลัยยังได้รับข้อเสนอแนะของกรรมการสภามหาวิทยาลัยไปดำเนินการในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งหัวหน้า คสช. ในประเด็นต่างๆ

อาทิ 1) ดำเนินการตรวจสอบการกำหนดค่าตอบแทน หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดนอกเหนือจากกฎ ระเบียบที่กำหนด ให้กับผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิหรือไม่ หากตรวจพบว่ามีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ให้มหาวิทยาลัยดำเนินการยกเลิกและปรับแก้ไขให้ถูกต้อง

2) ดำเนินการตรวจสอบการจัดการเรียนการสอนในทุกหลักสูตร เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดการศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร ทั้งในระดับปริญญาตรี และระดับบัณฑิตศึกษา และรายงาน สภามหาวิทยาลัยทราบ 

3) การพิจารณาหลักสูตรใหม่ในการประชุมสภามหาวิทยาลัย ให้บรรจุเรื่องไว้ในระเบียบวาระเรื่องอนุมัติ - เพื่อพิจารณา ทั้งนี้ เพื่อให้สภามหาวิทยาลัยได้ใช้ดุลยพินิจพิจารณาหลักสูตรใหม่อย่างละเอียด รอบคอบ สำหรับหลักสูตรปรับปรุงให้บรรจุไว้ในระเบียบวาระเรื่องอนุมัติ-เพื่อทักท้วง

และ 4) มหาวิทยาลัยต้องกำกับ ติดตาม การจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรระดับปริญญาตรี และระดับบัณฑิตศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยการแต่งตั้งคณะทำงาน และสามารถใช้ระบบกลไกการดำเนินการ จากคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลงานของมหาวิทยาลัย หรือคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายใน ตามระบบการประกันคุณภาพภายใน