“eGovernment Forum 2016” สัมมนา!ยกระดับภาครัฐไทย สู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล


เมื่อเร็วๆ นี้ สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย (ATCI) ร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดโครงการ eGovernment Forum 2016 ภายใต้แนวคิดหลัก The Challenges of Government Innovation : Disruptive Government อบรมสัมมนาวิชาการเพื่อการบูรณาการภาครัฐระหว่างหน่วยงานต่างๆ

ในการยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานนำเทคโนโลยีและอุปกรณ์ดิจิทัลมาสนับสนุนการปฏิบัติงาน โดยคำนึงถึงการให้บริการแบบมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ขับเคลื่อนไปสู่การเปลี่ยนแปลง ยกระดับภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย (ATCI) กล่าวว่า “eGovernment Forum 2016 เป็นเวทีสำคัญในการอภิปรายและนำเสนอเทคโนโลยีที่สอดรับกับการเข้าสู่ยุคระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ที่เทคโนโลยีดิจิทัลจะไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสนับสนุนการทำงานอีกต่อไป 

หากแต่จะหลอมรวมเข้ากับชีวิตคนอย่างแท้จริง และจะเปลี่ยนโครงสร้างรูปแบบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ กระบวนการผลิต การค้า การบริการ และกระบวนการทางสังคมอื่นๆ รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลไปอย่างสิ้นเชิง ประเทศไทยจึงต้องเร่งนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ

สมาคม ATCI ได้ตระหนักถึงความท้าทายและโอกาสดังกล่าว ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมีแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาในระดับประเทศที่สอดคล้องกันระหว่างทุกหน่วยงาน

“โดยมีองค์ประกอบของยุทธศาสตร์กรอบการพัฒนา และแผนการดำเนินงาน (Roadmap) เพื่อเป็นแนวทางการยกระดับขีดความสามารถเชิงดิจิทัลของภาครัฐไทย”

ด้าน ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า การยกระดับภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ

โดยภาคประชาชนนอกจากจะได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นแล้ว บริการที่ได้รับยังมีคุณภาพ ตรงตามความต้องการรายบุคคล และตรงตามสิทธิมากยิ่งขึ้นด้วย ภายใต้กรอบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยจากการคุกคามภายในและภายนอกประเทศที่มีมาตรฐาน 

สำหรับภาคธุรกิจ การยกระดับภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลไม่เพียงแต่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและการติดต่อภาครัฐ แต่ยังเป็นการสร้างปัจจัยแวดล้อมให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่การวางแผนธุรกิจ เริ่มต้นธุรกิจ ดำเนินกิจการ ไปจนถึงขยายธุรกิจ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการให้ทัดเทียมกับระดับสากล  อันจะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ 

นอกจากนี้ การยกระดับภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลยังก่อให้เกิดการบูรณาการภายในภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาภพ เพิ่มความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงาน  เพิ่มความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ 

“และช่วยให้หน่วยงานภาครัฐพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันโดยมีเทคโนโลยีสนับสนุน เพื่อสร้างเสถียรภาพให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”

นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA-เอ็ตด้า กล่าวว่า สถานการณ์ภัยคุกคามไซเบอร์ได้ทวีความรุนแรงและเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จากการวิเคราะห์ในรายละเอียดพบว่า หน่วยงานภาครัฐได้ตกเป็นเป้าหมายของภัยคุกคามประเภท Malicious Code และ Intrusion ซึ่งมักจะเป็นการเปลี่ยนแปลงหน้าเว็บไซต์ หรือ Web Defacement อย่างต่อเนื่อง

ดังจะเห็นได้จากข่าวสารที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชน หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ ส่วนภาคเอกชนก็มักตกเป็นเป้าหมายของการหลอกลวง ซึ่งมักมุ่งประโยชน์ทางการเงินเป็นหลัก

ETDA ในฐานะหน่วยงานที่ส่งเสริมธุรกรรมออนไลน์ให้เกิดความมั่งคงปลอดภัย และมีไทยเซิร์ตเป็นส่วนงานสำคัญในการรับมือและตอบสนองต่อภัยคุกคามไซเบอร์ เพื่อให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้ทำธุรกรรมออนไลน์อย่างมั่นคงปลอดภัย

จึงได้ดำเนินโครงการเพื่อดูแลหน่วยงานภาครัฐให้มีภูมิคุ้มกันจากปัญหาดังกล่าว ภายใต้โครงการ ThaiCERT Government Monitoring System (GMS) ประกอบด้วย การตรวจจับและเฝ้าระวัง (GTM: Government Threat Monitoring) และการตรวจจับและป้องกันการโจมตี (GWP: Government Website Protection)

“เพื่อส่งเสริมและวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างจริงจัง”

ขณะที่ คุณปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจ จะเน้นด้านระบบรักษาความปลอดภัยจากการคุกคามภายในและภายนอก ด้วยมาตราฐานระบบสากลโลก อีกทั้งยังมีการนวัตกรรมล้ำหน้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรในปัจจุบัน การมีส่วนร่วมในงานครั้งนี้

เช่น การบรรยาย การเสวนา นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่จัดแสดงในงาน ทางบริษัทฯ ได้นำความรู้ในเรื่องภัยคุกคามในปัจจุบัน และเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ เพื่อให้องค์กรภาครัฐที่เป็นหัวใจหลักของประเทศ ได้มีการเตรียมตัวเตรียมพร้อมรับมือ เมื่อพบภัยคุกคามในปัจจุบัน

ผลิตภัณฑ์หรือองค์ความรู้ที่เหมาะสมสอดคล้องกับ eGovernment ของบริษัท มีการเน้นการรักษาความปลอดภัยในดาต้าเซนเตอร์ขององค์กร โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้ ระดับลูกข่ายทั่วไปขององค์กร, ระดับดาต้าเซนเตอร์ และดาต้าเซนเตอร์เสมือน และระดับเน็ตเวิรค

“ซึ่งในแต่ละระดับทางบริษัทมีโซลูชั่นที่สามารถรักษาความปลอดภัยจากภัยคุกคามทั้งภายนอกและภายใน ได้ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นภาพโดยรวมของการทำงานโดยผ่าน Centralize Management” คุณปิยธิดากล่าว