รศ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยเกี่ยวกับการจัดประชุมมอบนโยบายและการชี้แจงแนวทางการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติ โดยศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล (ศส.ปชต.) ระหว่าง กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ

เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกๆ คนเห็นถึงความสำคัญของการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีความสำคัญต่อประเทศ คุณภาพชีวิต สิทธิ และเสรีภาพของคนในชาติ

ซึ่งการจัดประชุมครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความเข้าใจร่วมกันในการประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้การศึกษา และสร้างกระบวนการเรียนรู้ด้านการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้แก่ประชาชนคนไทยทุกๆ คนได้รับรู้และเข้าใจมากยิ่งขึ้น

การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อประเทศ และ คุณภาพชีวิต สิทธิ เสรีภาพ ของประชาชนคนไทยทุกคนเป็นอย่างยิ่ง ภารกิจหลักของกระทรวงศึกษาธิการ คือ การสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้การศึกษาพัฒนาคน เยาวชน และประชาชนให้เป็นพลเมืองดีและมีคุณภาพ

จึงขอเชิญชวนให้คนไทยทุกคนได้ออกไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ ตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองที่ดี ในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ที่จะถึงนี้ โดยกระทรวงศึกษาธิการ และ กกต. ได้กำหนดให้มีการดำเนินภารกิจ “3 สัปดาห์ประชามติ”

อันเป็นกิจกรรมที่สำคัญประการหนึ่ง ในการสร้างการรับรู้ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ รณรงค์การออกเสียงประชามติ การพัฒนาเจ้าพนักงานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งมืออาชีพ และกิจกรรมการฝึกปฏิบัติเพื่อลดบัตรเสียไม่เกินร้อยละ 3 รวมถึงติดตามการจัดส่งเอกสาร สำรวจ แนะนำการลงทะเบียนนอกเขตจังหวัด การเพิ่มชื่อ-ถอนชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ และการเตรียมเอกสารแสดงตน

โดยเป็นการดำเนินการภายในชุมชนทั่วประเทศ มีคณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล หรือ ศส.ปชต. ของสำนักงาน กศน.ทุกตำบล จำนวน 7,424 ตำบล เป็นกลไกสำคัญ

ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางพัฒนาประชาธิปไตยในตำบล ให้ความรู้ประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมประชาธิปไตย พัฒนาต่อยอดการสร้างและขยายเครือข่ายพลเมือง และสร้างการมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้งได้อย่างเป็นรูปธรรม

“โดยเฉพาะในห้วงเวลานี้ ที่มีภารกิจเน้นหนักใน 3 สัปดาห์ก่อนถึงวันออกเสียงประชามติ เรื่องการออกเสียงประชามติในทุกหมู่บ้าน ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้ข่าวสารการประชาสัมพันธ์กระบวนการและขั้นตอนการออกเสียงประชามติที่ถูกต้อง ส่งไปถึงประชาชนคนไทยในทุกพื้นที่ได้อย่างทั่วถึงให้มากที่สุด” รศ.กำจรกล่าว