ความคืบหน้ากรณี ดร.ธนู กุลชล ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัญชัญ หรือ ม.เอแบค เรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ปรับปรุงเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ไม่ควรรวมเหมาเข่งฉบับเดียว

แต่ควรจะแบ่งประเภทมหาวิทยาลัย  เช่น ประเภทที่ 1 มหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ตั้งใหม่ หรือตั้งมาไม่เกิน 5 ปี ควรจะมีหลักเกณฑ์อย่างหนึ่ง, ประเภทที่ 2 ตั้งมาเกิน 5 ปีแล้ว ผ่านมาตรฐานรับรองขั้น 1 แล้ว ก็ควรจะมีหลักเกณฑ์อีกอย่างหนึ่ง และประเภทที่ 3 ตั้งมาแล้ว 20 ปีขึ้นไป และผ่านเกณฑ์รับรองมาแล้ว ก็ควรจะมีเกณฑ์ที่ควบคุมดูแลอีกอย่าง เป็นต้นนั้น

เรื่องนี้ รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ให้สัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นกับ “สำนักข่าวการศึกษา สยามเอ็ดดูนิวส์” ว่า โดยส่วนตัวแล้วตนเห็นด้วยกับข้อเสนอของ ดร.ธนู เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งคงต้องมาพิจารณาดูว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรได้บ้าง

“ถ้าพิจารณาดูตัว พ.ร.บ.แล้วเห็นว่า ไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้ เราก็ต้องมาดูที่วิธีการว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เช่น การแบ่งกลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งคงต้องมีการหารือกันถึงเรื่องนี้ในรายละเอียดอีกครั้ง โดยจะพยายามทำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”

รศ.นพ.สรนิตกล่าวด้วยว่า แนวคิดของ ดร.ธนูที่จะให้มีการแบ่งกลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชน เช่น กลุ่มที่เพิ่งเกิดใหม่ 1-5 ปี, กลุ่มที่อยู่มานานระยะหนึ่ง 5-10 ปี และกลุ่มที่อยู่นาน 10-20 ปีนั้น ตนเห็นว่าคงต้องมาดูที่ผลปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งด้วย

เช่น ถ้าผลปฏิบัติงานไม่ดีไม่ได้มาตรฐาน ก็ต้องดูแลอีกแบบหนึ่ง โดยอาจจะต้องเข้าไปดูแลเข้มขึ้น ซึ่ง สกอ.ก็มีวิธีการหรือแนวปฏิบัติให้แต่ละมหาวิทยาลัยดำเนินการอยู่