นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และหัวหน้าคณะทำงานกำหนดแนวทางการประเมินประสิทธิภาพและติดตามการดำเนินงานขององค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2559 ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีพบชุดนักเรียนค้างสต๊อกอยู่ในคลังสินค้าขององค์การค้าฯจำนวนมากว่า

จากการตรวจสอบของตนและนายสุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ พบว่าในคลังสินค้าองค์การค้าฯมีชุดนักเรียนค้างอยู่ในสต๊อกถึงจำนวน 509,600 ชิ้น  มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

ซึ่งที่ผ่านมามีเอกชนเข้ามาขอซื้อในราคาถูก แต่จากการหารือเห็นว่า เราจะไม่ยอมให้เอกชนรายใดได้ประโยชน์รับซื้อชุดนักเรียนในราคาถูก โดยในเบื้องต้นทางองค์การค้าฯจะคัดเลือกชุดนักเรียนที่อยู่ในสภาพดีรวมประมาณ 460,000 ชิ้น ออกมาจำหน่ายให้ประชาชาชนในราคาถูก เพื่อให้ได้เงินทุนจำนวนหนึ่งกลับคืนมาหมุนเวียนภายในองค์การค้าฯ

ส่วนเรื่องการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลนั้น ตนได้มอบหมายให้นายสุเทพตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงว่า สินค้าค้างอยู่ในคลังองค์การค้าฯมาเป็นเวลานานเท่าไรแล้ว และเกิดขึ้นในช่วงที่ใครเป็นผู้อำนวยการองค์การค้าฯ หากมีหลักฐานชัดเจนว่า ผู้บริหารองค์การค้าฯคนใดมีเจตนาสั่งซื้อสินค้าเกินจริงมาเก็บไว้ในคลัง ก็จะสั่งดำเนินการตามกฎหมายทันที

“มั่นใจว่า จะสามารถเอาผิดกรณีนี้ได้อย่างแน่นอน  เพราะของทั้งหมดเป็นของหลวง ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้” นายธเนศพลกล่าว และว่า สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า การบริหารงานขององค์การค้าฯที่ผ่านมามีปัญหา การที่พบชุดนักเรียนค้างอยู่ในคลังสินค้าจำนวนมากขนาดนี้ คิดไปในลักษณะอื่นไม่ได้ นอกจากสั่งมาเพื่อกินเงินค่าหัวคิว 

คิดเอาง่ายๆ ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการ เรื่องการสั่งสินค้าเกินในปีแรกนั้น มีความเป็นไปได้ แต่ในปีต่อไป เราต้องนำสินค้าที่ค้างสต็อกอยู่ออกมาขายก่อน แล้วสั่งสินค้าเข้ามาในปริมาณลดลง เพื่อไม่ให้ขาดทุน แต่นี่สั่งสินค้าเกินจริงติดต่อมานานเป็นสิบปี ก็ต้องคิดดูว่าทำไปเพื่ออะไร

นายธเนศพลกล่าวด้วยว่า นอกจากเรื่องชุดนักเรียนแล้ว ตนและนายสุเทพกำลังตรวจสอบสินค้าประเภทอื่นๆ เพิ่มเติมว่ามีการกักตุนหรือสั่งสินค้าเกินจริงอีกหรือไม่

“ส่วนการตรวจสอบองค์การค้าฯเรื่องการรับฝากเข็มขัดและหัวเข็มขัดลูกเสือ ซึ่งเป็นของเถื่อน ไม่มีลิขสิทธิ์ ไว้ในคลังสินค้าขององค์การค้าฯนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า”

ทางด้านนายสุเทพกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ชุดนักเรียนได้สะสมอยู่ในสต๊อกสินค้าองค์การค้าฯมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 และมียอดบางส่วนอยู่ในสต๊อกตั้งแต่ปี 2541 และ 2542 ซึ่งในส่วนของการตรวจสอบ ตนได้แต่งตั้งนายอำนาจ วิชยานุวัติ ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. เป็นประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และเนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์การค้าฯ ตนจึงได้เร่งการสืบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน