“ผู้ตรวจ ศธ.” เตรียมสรุปผลดำเนินโครงการลดเวลาเรียน-เพิ่มเวลารู้ เสนอ “บิ๊กหนุ่ย” พบส่วนใหญ่สอบผ่าน


ดร.บัณฑิตย์ ศรีพุทธรางกูร ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ และปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค (ศธภ.) 13  เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามการดำเนินโครงการ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามนโยบาย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ได้มอบหมายให้ตนรับผิดชอบติดตามการดำเนินโครงการ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากผู้ตรวจราชการ ศธ.ทุกคน เพื่อสรุปผลการดำเนินโครงการในช่วงที่ผ่านมานำเสนอ รมว.ศึกษาธิการ

โดยวัตถุประสงค์หลักของโครงการคือ การนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ การสร้างกระบวนการคิดให้แก่นักเรียน การพัฒนานักเรียนให้เต็มศักยภาพ นักเรียนมีความสุข และผู้ปกครองมีความพึงพอใจ ซึ่งในทางปฏิบัติหากสามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์หลัก โดยเฉพาะการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติได้ จะทำให้เด็กเกิดความเข้าใจในบทเรียน โดยไม่ต้องจด

ซึ่งครูผู้สอนก็ต้องมีวิธีการประยุกต์กิจกรรมที่จะนำมาใช้ต้องเชื่อมโยงกับหลักสูตรให้เกิดการบูรณาการหลายๆ วิชาเข้าด้วยกัน เช่น การทำข้าวต้มมัด ก็ควรให้เด็กรู้ว่าส่วนผสมแต่ละอย่างมีคุณค่าทางอาหารอะไรบ้าง ทั้งข้าวเหนียว ถั่วดำ กล้วย กะทิ เป็นต้น

ขณะเดียวกันก็นำวิชาคณิตศาสตร์เข้าไปสอน ด้วยการคำนวณต้นทุน และคิดราคาที่จะขาย หรืออาจจะสอนภาษาอังกฤษเข้าไปในตัวก็ได้ว่า ส่วนผสมแต่ละอย่างเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่าอะไร ซึ่งหากครูสามารถบูรณาการทุกวิชาได้แบบนี้ ไม่ใช่สอนให้ทำข้าวต้มมัดเป็นอย่างเดียว ก็เชื่อว่าจะทำให้กิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ได้ประโยชน์ยิ่งขึ้น

กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ จะได้ประโยชน์มากขึ้น ถ้าครูและผู้บริหารสถานศึกษามีความเข้าใจและสามารถบูรณาการวิชาต่างๆ มาพัฒนาผู้เรียน จะทำให้เด็กได้เห็นของจริง ไม่ต้องท่องจำ เป็นการเรียนรู้สู่การปฏิบัติที่จะได้ผลอย่างแท้จริง

“ซึ่งเท่าที่ติดตามก็พบว่า ส่วนใหญ่มีความเข้าใจแล้ว แต่ยังกังวลว่าเวลาเรียนวิชาหลักจะไม่เพียงพอตามหลักสูตรขั้นพื้นฐาน ซึ่งกระทรวงศึกษาฯก็มีกลุ่มสมาร์ทเทรนเนอร์ลงไปนิเทศให้คำแนะนำอยู่แล้ว” ดร.บัณฑิตย์กล่าว