ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ ผู้ช่วยเลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะโฆษกสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยว่า สกศ.ได้ดำเนินการจัดพิมพ์รายงานการวิจัยเด่นของ สกศ.เผยแพร่สู่สาธารณะและผู้สนใจทั่วไป จำนวน 4 งานวิจัย

โดยเล่มแรกคือ รายงานการวิจัยเรื่องสมรรถนะการศึกษาไทยในเวทีสากล พ.ศ. 2558 (IMD 2015) โดยงานวิจัยเล่มนี้ เป็นรายงานเชิงสถิติเปรียบเทียบสมรรถนะ ใช้ตัวชี้วัดของสถาบันการจัดการนานาชาติ หรือ ไอเอ็มดี เป็นกรอบในการวิเคราะห์

และชี้ให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในภาพรวมปี 2558 อยู่ในอันดับที่ 30 จากทั้งหมด 61 ประเทศ และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน ไทย เป็นรอง สิงคโปร์ และ มาเลเซีย และมีอันดับดีกว่า ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย นำเสนอรายละเอียดแต่ละตัวชี้วัดอย่างชัดเจน ตลอดจนแนวทางยกระดับอันดับการแข่งขันของประเทศไทย 

เล่มที่สอง การวิจัยเรื่องสภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร โดยรองศาสตราจารย์ วิทยากร เชียงกูล ซึ่งทีมนักวิจัยได้รวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวกับสภาวะการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไทย ปี 2557 จนถึงช่วงครึ่งปีแรก 2558 ตลอดจนสภาวะการศึกษาไทย ปี 2556-2557

พร้อมได้นำเสนอแนวทางการปฏิรูปการจัดการศึกษาให้ก้าวทันโลกในศตวรรษที่ 21 เน้นการปฏิรูปครูอาจารย์และผู้บริหารการศึกษาการปฏิรูปหลักสูตร วิธีการเรียนการสอน และการประเมินผลการปฏิรูประบบการจัดการทางการศึกษา

งานวิจัยเล่มที่สาม เรื่องหุ้นส่วนการศึกษาระหว่างภาครัฐกับเอกชนในประเทศไทย เป็นการศึกษาวิจัยความเป็นหุ้นส่วนการศึกษาระหว่างภาครัฐกับเอกชนในประเทศไทย ตลอดจนประสบการณ์จากต่างประเทศเน้นระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและภาคเอกชนในกลุ่มธุรกิจและอุตสาหกรรมเป็นหลัก

โดยมีผลจากการศึกษาวิจัยใน 2 เรื่อง คือ รูปแบบของหุ้นส่วนการศึกษาระหว่างภาครัฐกับเอกชนในประเทศไทย และแนวทางการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนการศึกษาระหว่างภาครัฐกับเอกชนในประเทศไทย

และเล่มสุดท้ายคือ รายงานการวิจัยเรื่องสภาพการจัดการศึกษาเฉพาะทางในประเทศไทย ปี 2556 : การผลิตบุคลากร นำเสนอผลการศึกษาและวิเคราะห์สภาพการจัดการศึกษาเฉพาะทาง 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มรายวิชาการทหาร ตำรวจ 2.กลุ่มรายแพทย์และพยาบาล และ 3.กลุ่มสายวิชาการ/วิชาชีพเฉพาะทางอื่นๆ

พร้อมนำเสนอเกี่ยวกับสภาพการจัดการศึกษา ปัญหาและข้อเสนอแนวทางแก้ไขการจัดการศึกษาเฉพาะทางของประเทศไทย ตลอดจนสถิติการศึกษาเฉพาะทาง ปี 2556

อย่างไรก็ดี ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา มีแนวคิดสำคัญหวังต่อยอดงานวิจัยทั้ง 4 เรื่องดังกล่าวนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยประสานความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกันวางแนวทางปรับระบบการศึกษาให้เป็นทิศทางเดียวกันทั้งระบบสอดคล้องกับความต้องการแรงงานที่เป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศต่อไป

“ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับเอกสารรายงานการวิจัยทั้ง 4 เรื่องดังกล่าวด้วยตนเอง ได้ที่สำนักวิจัยและพัฒนาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา อาคาร 1 ชั้น 3 โทรศัพท์ 0-2668-7123 ต่อ 1329 หรือดาวโหลดเอกสารได้จากเว็ปไซด์ สกศ. www.onec.go.th” ดร.สมศักดิ์กล่าว