“เลขาธิการ กศน.” จี้! นิติกร สรุปผลสอบขบวนการงาบงบฯหนังสือเรียน ให้เวลา 1-2 สัปดาห์กระจ่าง


ความคืบหน้าต่อเนื่อง “สำนักข่าวการศึกษา สยามเอ็ดดูนิวส์” นำเสนอข่าวกรณีมีการร้องเรียนกล่าวหามีขบวนการหากินกับงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างพิมพ์หนังสือเรียนของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) รวมทั้งมีโรงพิมพ์คู่ค้ากับ กศน.บางแห่ง เหิมเกริมละเมิดลิขสิทธิ์หนังสือเรียนของ กศน. โดยนำหนังสือเรียนลิขสิทธิ์ กศน.ไปทำการคัดลอก ดัดแปลง เปลี่ยนหน้าปกไปเป็นหนังสือเรียนของโรงพิมพ์แห่งนั้น แล้วนำกลับมาประมูลขายให้กับศูนย์ กศน.ต่างๆ สร้างความเสียหายแก่ทางราชการคือ กศน. มูลค่ารวมนับ 100 ล้านบาท

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2559 นายสุรพงษ์ จำจด เลขาธิการ กศน. ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวการศึกษา สยามเอ็ดดูนิวส์” พร้อมเชิญนิติกรของสำนักงาน กศน.มาให้ข้อมูลผลการสอบสวนเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความกระจ่าง

โดยนายสุรพงษ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เป็นจริงตามที่มีการร้องเรียนกล่าวหาดังกล่าวหรือไม่ หากพบว่ามีมูลความจริง ก็ต้องมีการสอบสวนลงลึกไปอีกว่า เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่เป็นประเด็นกล่าวหาคือ มีโรงพิมพ์คู่ค้ากับ กศน.บางแห่ง เหิมเกริมละเมิดลิขสิทธิ์หนังสือเรียนของ กศน. โดยนำหนังสือเรียนลิขสิทธิ์ กศน.ไปทำการคัดลอก ดัดแปลง เปลี่ยนหน้าปกใหม่ไปเป็นหนังสือเรียนของโรงพิมพ์แห่งนั้น แล้วนำกลับมาประมูลขายให้กับศูนย์ กศน.ต่างๆ

“โดยเฉพาะการกล่าวหาว่า มีการละเมิดลิขสิทธิ์หนังสือเรียนวิชาภาคบังคับ เช่น ภาษาไทย คณิตศาสตร์ แล้วเอาหนังสือเรียนลิขสิทธิ์ของเราไปเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย สร้างความเสียหายแก่ทางราชการคือ กศน. ซึ่งผมได้สอบถามทางนิติกรสำนักงาน กศน.ว่า หากเป็นประเด็นกล่าวหานี้ก็ต้องมีการตรวจพิสูจน์ให้ได้” นายสุรพงษ์กล่าว

เลขาธิการ กศน.กล่าวต่อว่า ทราบเบื้องต้นว่ากรณีการละเมิดลิขสิทธิ์นี้ มีหนังสือเรียนบางส่วนที่กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ตนอยากเห็นความคืบหน้าและเห็นผลสรุปการสอบสวนเรื่องนี้ออกมาโดยเร็ว ซึ่งตนก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

“ผมยืนยันจะดำเนินการเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ชัดเจนที่สุด ซึ่งผมจะติดตามสอบถามนิติกรเจ้าของสำนวนคดีนี้ คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะรู้ผลความคืบหน้าเรื่องนี้ ขอสบายใจได้เลยว่า เรื่องนี้ผมจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดเจน เพราะผมก็ไม่ชอบเรื่องทุจริตเช่นกัน”

นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า ถ้าหนังสือเรียนของโรงพิมพ์บริษัทคู่ค้า กศน. เป็นต้นฉบับของ กศน.จริง ถือว่า กศน.เสียหาย ทั้งนี้ ตนยังให้เกียรติกับทางนิติกร กศน.ที่เป็นเจ้าของเรื่องได้สรุปผลสอบสวนมาให้ตนดู ซึ่งต้องชัดเจน มีหลักฐานประกอบ หากมีผลกระทบกับ กศน.ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย และถ้ามีบุคลากร กศน.คนใดเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ต้องจัดการลงโทษไปตามระเบียบราชการ

“ถ้ามีเรื่องเอกชนทำให้ กศน.เสียหาย แล้วผมในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงไม่ดำเนินการเอาผิด ก็ถือว่าปล่อยปะละเลย หรือว่ามีผลประโยชน์ด้วย เรื่องนี้ถือว่ากวนใจผมอยู่พอสมควร จริงๆ แล้วปัญหาเหล่านี้ไม่ควรจะมีเลย แต่อย่างว่าคนหมู่มากต่างคิดไม่เหมือนกัน บางคนเอาประโยชน์ส่วนตน ไม่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ปัญหาถึงได้เกิดขึ้น”