สัมผัสโลกเอกชน! หนุนอาชีวะทวิภาคีไทย...“นิปปอนเพนต์” การันตีเรียนจบแล้ว มีงานทำ

พลังของคนรุ่นใหม่ คือพลังที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต

บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมสีพ่นซ่อมรถยนต์ จึงได้ส่งเสริมการพัฒนาทักษะวิชาชีพช่างตัวถังและสีรถยนต์แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ ในงาน “อาชีวศึกษาทวิภาคีไทย” ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

โดยร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด และสมาคมสหมิตรการซ่อมรถยนต์แห่งประเทศไทย จัดนิทรรศการนำเสนอความสำเร็จของทั้ง 3 หน่วยงาน ในการร่วมกันพัฒนาและจัดเตรียมบุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับการขาดแคลนแรงงานช่างตัวถังและสีรถยนต์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ภายในงาน มีการสาธิตการเรียนการสอนสาขาช่างตัวถังและสีรถยนต์ การจัดแสดงวัสดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในงานซ่อมสี พร้อมกิจกรรมทดสอบสายตาในการแยกแยะสีที่มีความใกล้เคียงกัน รวมถึงโชว์ผลงานของนักศึกษาอาชีวะระบบทวิภาคี ในการซ่อมสีรถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุจนพังเสียหาย ให้กลับมามีสีสันสวยงามดังเดิม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ก้าวเข้าสู่สายอาชีพนี้

สกู๊ป แวดวงการศึกษา คมคาย ธมะสุข ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบริหาร บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “นิปปอนเพนต์มุ่งสร้างเยาวชนช่างสีรถยนต์ ขับเคลื่อนกำลังพลสู่มืออาชีพ” หรือเรียกสั้นๆว่า “Protégé Project” (โปรเตเจ้โปรเจ็ค) ซึ่งมีที่มาจากการเล็งเห็นว่า ประเทศไทยยังขาดแคลนแรงงานด้านช่างพ่นซ่อมสีรถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญอีกมาก ในขณะที่ตลาดรถยนต์มีแนวโน้มขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ

การจัดการศึกษาระบบทวิภาคีในครั้งนี้ นิปปอนเพนต์มีส่วนร่วมโดยการส่งบุคลากรผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญมาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ด้านการพ่นซ่อมสีรถยนต์ให้กับนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด

เมื่อสำเร็จภาคทฤษภีแล้ว นักศึกษากลุ่มนี้จะได้เข้าฝึกงาน ณ สถานประกอบการในเครือข่ายของสมาคมสหมิตรการซ่อมรถยนต์แห่งประเทศไทยต่อไป

ซึ่งปัจจุบันมีนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด สำเร็จการศึกษาจากระบบนี้แล้วถึง 3 รุ่น

สกู๊ป แวดวงการศึกษา ขันติ บริบูรณ์ ครูชำนาญการพิเศษ หัวหน้างานอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด กล่าวว่า การศึกษาระบบทวิภาคี เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพภายใต้ความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา กับสถานประกอบการ ในการจัดหลักสูตรการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล

โดยผู้เรียนใช้เวลาส่วนหนึ่งในสถานศึกษา และเรียนภาคปฏิบัติในสถานประกอบการ ทำให้ผู้เรียนมีประสบการณ์จากการปฏิบัติงานจริง รวมถึงมีรายได้ระหว่างเรียน เมื่อฝึกปฏิบัติเสร็จแล้วยังได้รับใบรับรองการผ่านงานจากสถานประกอบการด้วย

สำหรับวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด แต่ละปีมีนักศึกษาเลือกเรียนในสาขาวิชาช่างสีและตัวถัง ชั้นปีละประมาณ 40 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ที่ผ่านมา ทางวิทยาลัยฯประสบปัญหาขาดแคลนครูผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จึงนับเป็นเรื่องดีที่ทางนิปปอนเพนต์ส่งวิทยากรมาถ่ายทอดประสบการณ์จริงแก่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ทั้งยังรับครูของวิทยาลัยฯ ไปอบรมความรู้เพิ่มเติมยังศูนย์เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ของนิปปอนเพนต์ด้วย

หัวหน้างานอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด ยังเปิดใจอีกว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ดำเนินโครงการมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง นอกจากนักศึกษาจะได้พัฒนาทักษะของตัวเองแล้ว ระหว่างการฝึกงานยังได้รับเบี้ยเลี้ยงวันละ 200-500 บาท ตามแต่ผลงาน เป็นขวัญและกำลังใจด้วย

ที่สำคัญคือ นักศึกษากลุ่มนี้เมื่อเรียนจบหลักสูตรแล้ว พบว่ามีงานทำ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นวิชาชีพซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน

สกู๊ป แวดวงการศึกษา

สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้นักศึกษารุ่นใหม่ๆ หันกลับมาให้ความสำคัญกับวิชาชีพช่างตัวถังและสีรถยนต์มากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรฐกิจของประเทศชาติในอนาคตต่อไป