สพฐ.รายงานความก้าวหน้านโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”


พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศปข.ศธ.) ครั้งที่ 2/2558 เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีการติดตามงานตามนโยบายสำคัญ คือ นโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” นโยบายการยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในทุกหลักสูตร และนโยบายการสร้างค่านิยมอาชีวศึกษา

เรื่องจากนโยบาย “การลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าแนวทางการบริหารจัดการเวลาเรียนตามนโยบายดังกล่าว ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดย สพฐ.ได้กำหนดนำร่องในโรงเรียนระดับประถมศึกษา-มัธยมศึกษาตอนต้น ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2/2558 โดยจะเป็นการลดเวลาเรียนในชั้นเรียน ซึ่งไม่กระทบกับ 8 กลุ่มสาระหลัก เพราะหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานในปัจจุบันได้กำหนดให้นักเรียนประถมศึกษาใช้เวลาเรียนไม่น้อยกว่า 1,000 ชั่วโมงต่อปี มัธยมศึกษาตอนต้นไม่น้อยกว่า 1,200 ชั่วโมงต่อปี แต่ใน 1 ปี จะมีเวลาเรียนจริงประมาณ 200 วัน ซึ่งชั้นประถมฯในปัจจุบันเรียน 6 คาบ/วัน หรือ 1,200 ชั่วโมงต่อปี ส่วนมัธยมศึกษาตอนต้นเรียน 7 คาบ/วัน หรือ 1,400 ชั่วโมงต่อปี ซึ่งมากกว่าเวลาเรียนตามหลักสูตรอยู่แล้ว ดังนั้นนโยบายปรับลดเวลาเรียนในชั้นเรียน จึงไม่ทำให้กระทบกับ 8 กลุ่มสาระหลัก

ส่วนระยะเวลาหลังเลิกเรียน 1 ชั่วโมง หรือช่วงเวลาประมาณ 14.30-15.30 น. จะมีกิจกรรมอะไรบ้างนั้น สพฐ.ได้รายงานความก้าวหน้าการเตรียมการด้านต่างๆ อาทิ ตั้งแต่วันที่ 11-30 กันยายน 2558 จะสรุปข้อมูลจากการรับฟังความคิดเห็น และสรุปจำนวนและรายชื่อโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งจัดทำคู่มือการบริหารจัดการเวลาเรียนสำหรับเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียน รวมทั้งจัดทำแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4 รูปแบบ ได้แก่ กิจกรรมเสริมสร้างทักษะ กิจกรรมเสรี กิจกรรมสอนอาชีพ และกิจกรรมสอนเสริมวิชาการ

และระหว่างวันที่ 1-31 ตุลาคม 2558 จะจัดให้มี Workshop และการสร้างการรับรู้ 6 จุดทุกภูมิภาคทั่วประเทศ สำหรับโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้บริหารโรงเรียน ครูฝ่ายวิชาการ ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และศึกษานิเทศก์ รวมทั้งจะเร่งประชาสัมพันธ์-สร้างการรับรู้สู่ผู้เรียนให้แก่สังคมได้รับทราบ เพื่อดำเนินการได้ตั้งแต่เปิดภาคเรียนที่ 2 ในวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป