องค์กรครู ร้อง "นายกฯอิ๊งค์-อนุทิน-สคบ.-คปภ." ตรวจสอบใครเอาเปรียบ! ดอกเงินกู้ - ประกัน"สมาชิก ช.พ.ค. เดือดร้อนแสนสาหัส

 

องค์กรครู ร้อง "นายกฯอิ๊งค์-อนุทิน-สคบ.-คปภ." ตรวจสอบใครเอาเปรียบ! ดอกเงินกู้ - ประกัน"สมาชิก ช.พ.ค. เดือดร้อนแสนสาหัส 

 

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567 โซเชียลกลุ่มข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แชร์ หนังสือ ของสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ลงวันที่ 19 กันยายน 2567 โดย นายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ ต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี , นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) , เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

 

 

 

 

ทั้งนี้ เพื่อให้ทำการตรวจสอบความโปร่งใส กรณีดอกเบี้ยเงินกู้และเงินประกันโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.ที่กู้จากสถาบันการเงินธนาคารออมสินและสถาบันการเงินอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

 

 

โดยเนื้อหาของสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ มีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้ว่า ...

 

ด้วย "สมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิก ช.พ.ค. ที่กู้เงินสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.จากธนาคารออมสิน ในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ในอัตราสูง ทั้ง ๆ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในอัตราต่ำ และ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ทำการปรับอัตราค่าเบี้ยประกันสูงขึ้น ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส

 

บางรายเคยจ่ายเบี้ยประกันรายปีเพียง 1 หมื่นบาทเศษ แต่พอทำการปรับเบี้ยประกันกลับต้องจ่ายสูงเกือบ 3 หมื่นบาท ปัญหานี้ได้เคยร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากหลายฝ่าย แต่ก็ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้

 

ในการนี้ สมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ มีความประสงค์ขอความกรุณาจากท่านได้พิจารณาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษาหลายแสนคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการสวัสดิการกู้เงินกู้ ช.พ.ค.มาหลายปี ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินการโครงการนี้หรือไม่? และมีความโปร่งใสหรือว่ามีใครได้รับผลประโยชน์และคอยเอารัดเอาเปรียบครูหรือไม่? เพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริงต่อไป"

 

 

 

ล่าสุด วันที่ 22 กันยายน 2567 กลุ่มข้าราชการบำนาญ จำนวนมากที่เป็นลูกหนี้ ในโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งเป็นโครงการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ร่วมกับธนาคารออมสิน ต้องจ่ายเบี้ยประกันสินเชื่อทุกปี ในอัตราที่สูงใกล้เคียงกับยอดผ่อนชำระเงินต้น

 

อาทิ ยอดค้างชำระธนาคารออมสิน 850,000 บาท ผ่อนคืนเดือน 7,500 บาท เป็นเงินต้น 3,500 บาท หรือราวปี 4 หมื่นบาท แต่ต้องจ่ายเงินประกันสินเชื่อปีเกือบ 3 หมื่นบาท ส่งผลยอดหนี้จึงแทบไม่ได้ลดลง ทำให้มองไม่เห็นหนทางปลดหนี้ว่า จะจบสิ้นเมื่อใด กลุ่มไลน์จึงได้แชร์หนังสือร้องทุกข์ ของนายสานิตย์ พลศรี ที่ขอให้ทำการตรวจสอบความโปร่งใส กรณีดอกเบี้ยเงินกู้และเงินประกันโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.ที่กู้จากธนาคารออมสิน เพื่อให้สมาชิกได้รับทราบทั่วกัน