สุขทั้งแผ่นดิน/เสกสรร สิทธาคม
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อทรงแบ่งเบาพระราชภาระในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชกรณียกิจเพื่อทรงช่วยเหลือราษฎร เฉพาะอย่างยิ่งผู้ยากไร้ทั่วประเทศ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรแทบทุกครั้ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในภูมิภาคต่างๆ พระองค์จะทรงเคียงข้างพระวรกายอยู่เสมอ
การเสด็จพระราชดำเนินไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้ทรงทราบถึงปัญหาความทุกข์ยากต่างๆ ของราษฎรในแต่ละภูมิภาค ซึ่งมีความแตกต่างกันไป พระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานจึงมีความเหมาะสมตามสภาพภูมิสังคม ผ่านโครงการอันเนื่องมาพระราชดำริที่พระราชทานให้จัดตั้ง ณ ภูมิภาคนั้นๆ เพื่อทรงแก้ปัญหาในแต่ละพื้นที่ ที่สำคัญล้วนเป็นพระราชกรณียกิจเสริมงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เท่ากับเป็นการผ่อนพระราชภาระ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ราษฎรอย่างแท้จริง จนทำให้องค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้ทูลเกล้าฯถวายรางวัลพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ
เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2558 นี้ ทีมข่าวหน้าในหลวงของเรา ในนามของพสกนิกรไทยได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณผ่านความรู้สึกของพสกนิกรส่วนหนึ่งที่ขอพระราชานุญาตถวายพระพร เพื่อถวายการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดิ์ดี
นายจรูญ อิ่มเอิบสิน ผู้ช่วยเลขาธิการพระราชวัง ผู้ที่ได้ทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในการสนองงานเรื่องโครงการฟาร์มตัวอย่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาโดยตลอด “เคยมีน้องๆ เยาวชนที่ได้เข้ามาเรียนรู้ที่ฟาร์มตัวอย่างฯถามว่า ทำไมสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ถึงต้องทรงงานหนักและมากมายขนาดนี้ พระองค์ท่านเป็นถึงพระราชินีอยู่เฉยๆ ไม่สบายกว่าเหรอ”
ตอนนั้นตอบเด็กๆ ไปว่า ตอบแทนพระองค์ท่านไม่ได้หรอกว่า ทำไมท่านไม่อยู่เฉยๆ แต่จากการได้มีโอกาสทำงานสนองพระราชดำริก็เลยรู้สึกว่า เนื่องจากประชาชนทุกคนเรียกท่านว่า แม่ของแผ่นดิน พระองค์ท่านเลยทรงต้องปฏิบัติหน้าที่แม่ของแผ่นดิน ดูแลทุกข์สุขลูกๆ ของพระองค์ งานทั้งหมดที่พระองค์ท่านทำท่านถือว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญ
“เมื่อกลับมาจากครั้งนั้นได้สืบค้นพระราชดำรัสของพระองค์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้เจอพระราชดำรัสในหนังสือเล่มหนึ่งที่กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า
“ตั้งแต่ที่พระองค์โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปฎิบัติพระราชกรณียกิจครั้งแรก มีประชาชนเรียกพระองค์ว่า แม่ สมเด็จแม่ พระองค์คิดว่าคำๆ นี้เป็นคำที่ศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนต้องยกย่องพระองค์เป็นอย่างมาก ดังนั้น การที่ได้รับการเรียกว่าแม่ ต้องมีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบ ยิ่งพระองค์เป็นแม่ของแผ่นดิน พระองค์รู้สึกเป็นความรับผิดชอบของท่านที่ต้องปฎิบัติหน้าที่เพื่อแผ่นดิน แล้วพระองค์ก็ทรงทำอย่างนั้นมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน ทำให้บอกได้อย่างเดียวว่า ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ขอพระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน” ผู้ช่วยเลขาธิการพระราชวัง กล่าว
ด้านนายภณ ใจสมัคร อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เล่าความรู้สึกประทับใจต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า
พระองค์ถือเป็นผู้ปลุกชิวีตความเป็นไทยของคนไทยขึ้นมาอีกครั้ง จากโครงการศูนย์ศิลปาชีพต่างๆ เราต้องร่วมกันสืบสาน สานต่อแนวพระราชปณิธานของพระองค์ให้คงอยู่สืบไป เยาวชนรุ่นใหม่ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาและเรียนรู้เรื่องศิลปวัฒนธรรมความเป็นไทย ตามที่พระองค์มีพระราชดำริไว้ เยาวชนต้องเข้ามามีส่วนในการเห็นความสำคัญของผ้าไทยที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรักษาไว้ให้เรา น่าจะทำให้พระองค์ทรงมีความสุข ทรงมีรอยยิ้มที่ความเป็นไทยจะคงอยู่สืบไป
“ในโอกาสวันแม่ ในนามของอาจารย์ทุกคน เยาวชนรุ่นใหม่ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ ทรงพระเกษมสำราญ ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน ข้าพระพุทธเจ้าจะนำสิ่งที่พระองค์สร้างมา สานต่อสืบไป” อาจารย์นายภณ กล่าวถวายพระพร
สุดท้าย อี๊ด วงฟราย์ (สำราญ ช่วยจำแนก) ศิลปินที่มีบทเพลงอันโดดเด่นกับเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ ได้มีโอกาสเรียนรู้แนวพระราชดำริของทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ กล่าวว่า
เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 83 พรรษา เราทุกคนอยู่ในผืนแผ่นดินไทย ที่มีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถเป็นพ่อแม่ของแผ่นดิน และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งพ่อและแม่ของแผ่นดินทั้งสองพระองค์ทรงงานหนัก เพื่อปวงชนชาวไทยมาโดยตลอดและยาวนาน มีพระราชดำริเกี่ยวกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมายหลายพันโครงการ และทุกโครงการที่ตั้งขึ้นก็เพื่อปวงชนชาวไทย ลูกหลานเยาวชนรุ่นหลังทั้งนั้น
“เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษานี้ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญของชาวไทยตลอดไป” อี๊ด วงฟลายยกมือขึ้นเหนือหัว
จึงเป็นที่ประจักษ์ว่า พระราชกรณียกิจที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงทุ่มเทพระวรกายปฏิบัติมาตลอดนั้น เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย ปัจจุบันแม้จะมีพระชนมายุมากแล้ว แต่พระองค์ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอยู่เช่นเดิม แม้มิได้เสด็จฯไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรเหมือนในอดีต แต่ก็มิเคยหยุดทรงงาน ทั้งหมดที่ทรงทำเพื่อช่วยเหลือราษฎรไทยและทรงแบ่งเบาพระราชภาระในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสิ้น จากทุกพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติมาตลอดนั้น สามารถกล่าวได้ว่า ทรงเป็น “พระแม่ของแผ่นดิน” ได้อย่างแท้จริง
เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม 2558 นี้ ในนามของพสกนิกรไทย ขอพระราชานุญาตถวายพระพร ขอทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตราบนานเท่านาน ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ