เปิดเบาะแส! สาวไส้ขบวนการมาเฟียงาบงบฯซื้อหนังสือเรียน กศน.

ความคืบหน้าต่อเนื่อง “สำนักข่าวการศึกษา สยามเอ็ดดูนิวส์” นำเสนอข่าวกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ผลิตหนังสือเรียนรายย่อย ทำหนังสือร้องเรียนไปถึงนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ขอให้ตรวจสอบกรณีการจัดจ้างพิมพ์หนังสือเรียน และการจัดซื้อหนังสือเรียนของศูนย์ กศน.ต่างๆ ทั่วประเทศย้อนหลังตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551 จนถึงปัจจุบัน วงเงินใช้งบประมาณรวมจำนวนหลายพันล้านบาท เนื่องจากสงสัยว่าจะมีการผูกขาด โดยกลุ่มระดับผู้บริหาร กศน.ทั้งในปัจจุบัน และอดีตที่มีอิทธิพล ซึ่งบางคนเกี่ยวพันสนิทแนบแน่นกับนักการเมืองใหญ่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกันดำเนินการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนบางราย และอาจเหิมเกริมถึงขั้นร่วมมือกันละเมิดลิขสิทธิ์หนังสือเรียนของ กศน. โดยนำหนังสือเรียนลิขสิทธิ์ กศน.ไปทำการคัดลอก ดัดแปลงไปเป็นหนังสือเรียนของบริษัทเอกชนเหล่านั้น แล้วนำกลับมาร่วมเสนอประกวดราคาขายให้กับศูนย์ กศน.ต่างๆ สร้างความเสียหายแก่ทางราชการคือ กศน.ไม่น้อยกว่าหลักพันล้านบาท และยังทำให้ผู้ผลิตหนังสือรายอื่นๆ ไม่สามารถเข้ามาแข่งขันราคาได้อย่างเป็นธรรม

กระทั่งมีการเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ได้ลงมาจัดการแก้ปัญหามาเฟียใน กศน.ดังกล่าวโดยเร็วด้วย ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่า มีอดีตผู้บริหาร กศน.ใครบ้างที่ถูกส่งไปเป็นผู้บริหารโรงพิมพ์เอกชนที่เป็นของคู่ค้ารายใหญ่กับศูนย์ กศน.ต่างๆ ซึ่งสร้างขึ้นในแต่ละภาค โดยได้รับเงินเดือนตอบแทนหลักแสนบาทนั้น

ล่าสุด “สำนักข่าวการศึกษา สยามเอ็ดดูนิวส์” ได้รับเอกสารร้องเรียนกล่าวหาจากข้าราชการในสังกัดสำนักงาน กศน.เพื่อขอให้เผยแพร่ส่งผ่านไปถึง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.ร.อ.ณรงค์ เพื่อสั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเอกสารที่ชี้ให้เห็นเบาะแสพฤติการณ์ส่อดำเนินการที่ไม่ชอบมาพากลของขบวนการมาเฟียใน กศน.ที่หาผลประโยชน์จากการจัดซื้อหนังสือเรียนของสำนักงาน กศน.หลายสิบจังหวัด โดยยกตัวอย่างให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏ กรณีมีการจัดสรรงบประมาณไปยังสำนักงาน กศน.จังหวัดต่างๆ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนให้จัดกิจกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ (หลักสูตรระยะสั้นของการศึกษาต่อเนื่อง) โดยมีการจัดสรรงบประมาณด้วยกัน 3 แนวทาง ซึ่งแนวทางที่ข้าราชการสังกัด กศน.ร้องเรียนกล่าวหาขอให้ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.ร.อ.ณรงค์สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง คือการจัดสรรงบประมาณตามแนวทางความหนาแน่นของประชากรและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย มีการยึดหลักจัดตามจำนวน ส.ส. ถ้าจังหวัดใดมี ส.ส. 1 คน จะได้งบฯ 500,000 บาท ได้งบฯมากน้อยตามจำนวน ส.ส.ของแต่ละจังหวัด แต่กลับพบความผิดปกติในการจัดสรรงบประมาณตามแนวทางนี้ โดยพบว่าจังหวัดเล็กบางจังหวัดกลับได้งบประมาณจำนวนมากเป็นพิเศษ มากกว่าจังหวัดใหญ่ที่มีจำนวน ส.ส.มากกว่า

ในเอกสารระบุข้อกล่าวหาให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า งบประมาณที่สำนักงาน กศน.จังหวัดได้รับจัดสรรเกินไปจากหลักการจัดตามจำนวน ส.ส.ดังกล่าว มีจำนวน 30-40 จังหวัด จังหวัดละ 6-10 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีการนำไปจัดซื้อหนังสือจำนวนมากเกินความจำเป็น และเป็นหนังสือที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจไม่มีคุณภาพ

เอกสารร้องเรียนกล่าวหาให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงระบุด้วยว่า นอกจากจะมีการสรรงบฯให้แล้ว ยังมีการจัดหาบริษัทขายหนังสือให้กับสำนักงาน กศน.หลายจังหวัดด้วย ซึ่งเป็นที่รับทราบกันดีว่า การซื้อหนังสือจะได้รับประโยชน์ส่วนลดสูงถึง 50% ดังนั้น คาดว่าขบวนการมาเฟียดังกล่าวนี้จะได้รับเงินผลประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดินเฉพาะในโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท นอกจากนี้ ในการนำงบฯในโครงการนี้มาจัดซื้อหนังสืออาจจะผิดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายของกรมบัญชีกลางด้วย โดยหลักสูตรระยะสั้นดังกล่าวนี้ กรมบัญชีกลาง และกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดวิธีการเบิกค่าใช้จ่ายโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนไว้ชัดเจน ไม่มีการกำหนดให้สามารถจัดซื้อหนังสือได้ ตามหนังสือกรมบัญชีกลางที่ กค 0406.6/ 354574 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554

ในเอกสารร้องเรียนกล่าวหายังระบุเบาะแสวิธีการตรวจสอบการดำเนินการที่ไม่ชอบมาพากลในการดำเนินโครงการนี้ว่า ขอให้เข้าตรวจสอบในสำนักงาน กศน.จังหวัดทางภาคอีสาน เพราะอาจไม่มีสำเนาเอกสารการดำเนินการโครงการนี้อยู่ในส่วนกลาง การเข้าตรวจสอบที่สำนักงาน กศน.จังหวัดจะได้หลักฐานครบ ทั้งหนังสือจัดสรรงบประมาณ และหลักฐานการจัดซื้อจัดจ้าง

“ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์, พล.ร.อ.ณรงค์, รศ.นพ.กำจร ปลัด ศธ. ตลอดจนนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการ กศน.ได้ออกมาปกป้องการทำงานของข้าราชการ กศน.ที่บริสุทธิ์ด้วย” ข้าราชการ กศน.คนหนึ่งกล่าว