รมว.ศธ.ชี้ DLTV เป็นเพียงเครื่องมือ สิ่งสำคัญสุดคือครูปลายทาง


พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.เมื่อเร็วๆ นี้ โดย พล.ร.อ.ณรงค์กล่าวในที่ประชุมถึงข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการดำเนินงานและการจัดการศึกษาของ ศธ.ในประเด็นต่างๆ อาทิ 1.การกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น ซึ่งเป็นแนวคิดของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แต่ในส่วนของศธ.ได้มีการหารือถึงการกระจายความรับผิดชอบไปสู่สถานศึกษาที่มีความพร้อมเท่านั้น ยังไม่ต้องกระจายให้ท้องถิ่น เพราะที่ผ่านมามีตัวอย่างการกระจายอำนาจไปแล้วมีทั้งผลดีและไม่ดี 2.รัฐบาลชุดนี้ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานด้านการศึกษาให้ดีขึ้นหลายส่วน แต่สังคมอาจยังไม่ได้รับทราบมากนัก ประกอบกับข่าวการศึกษายังไม่เป็นที่น่าสนใจหรือมีคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่สนใจ จึงขอฝากให้หน่วยงานใน ศธ.ร่วมกันคิดวิธีการนำเสนอข่าวสารให้มีความน่าสนใจและให้มีการเผยแพร่ความก้าวหน้าการดำเนินงานหรือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้สังคมได้รับทราบมากที่สุด

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (Distance Learning Television : DLTV) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 (พฤศจิกายน 2557-เมษายน 2558) ดังนี้ 1) ภาพความสำเร็จเกี่ยวกับการขยายโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การขยายผลการจัดการศึกษาด้วย DLTV ไปสู่โรงเรียนขนาดเล็ก 15,360 แห่งทั่วประเทศ นักเรียนได้มีโอกาสเรียนกับครูต้นทางครบทุกชั้น ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม และทำให้ครูได้มีสื่อที่จะช่วยในการจัดการเรียนการสอน

2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ ในปีการศึกษา 2557 ในโรงเรียนขนาดเล็กพบว่าการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการประกันคุณภาพการเรียนรู้ (NT) นักเรียนชั้น ป.3 มีคะแนนเฉลี่ยความสามารถ 3 ด้านสูงกว่าปีการศึกษา 2556 โดยมีค่าการพัฒนาเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.12 และในส่วนของการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น ป.6 พบว่ามีคะแนนเฉลี่ยรวมสูงกว่าปีการศึกษา 2556 โดยมีค่าการพัฒนาเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.98 และมีคะแนนเฉลี่ยกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ เพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 11.66

3) ผลการติดตามของคณะกรรมการนิเทศ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการดำเนินงานโครงการ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านพฤติกรรมนักเรียน-มีความพร้อมและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้กับครูต้นทาง ด้านครูปลายทางมีความเข้าใจบทเรียน มีการวางแผน กำหนดขั้นตอน และเตรียมความพร้อมก่อนการสอน ตลอดจนสามารถทำเครื่องมือวัดผลได้ ด้านผู้บริหารสถานศึกษา ตระหนักและดำเนินงานตามคู่มือ ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการเรียนการสอน มีการนิเทศ กำกับและติดตาม ตลอดจนทำความเข้าใจกับผู้ปกครองเกี่ยวกับแนวทางการจัดการเรียนการสอนด้วย DLTV  และด้านสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ได้สนับสนุนการดำเนินงาน นิเทศ กำกับและติดตามอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม พบปัญหาและอุปสรรคหลายประการ อาทิ โรงเรียนบางส่วนไม่ได้รับคู่มือครูพระราชทาน หนังสือเรียนบางส่วนไม่ตรงกับเนื้อหาของครูต้นทาง ปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้า ครูบางส่วนดูแลนักเรียนไม่ทั่วถึง ไม่เข้าใจเนื้อหา นักเรียนกว่าครึ่งเป็นชาติพันธุ์ที่มีปัญหาเรื่องภาษาไทย

4) ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน พ่อแม่ผู้ปกครอง นักเรียน และครู ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ DLTV จำนวน 1,097 คน เมื่อวันที่ 2-10 มกราคม 2557 โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต พบว่า ส่วนใหญ่เห็นว่าโครงการมีประโยชน์มาก คิดเป็นร้อยละ 81.95 ทำให้เด็กมีความรู้มากขึ้น ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง เกิดการพัฒนา ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 88.61 และร้อยละ 78.85 มีความพึงพอใจต่อโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ “ครูตู้ ครูพระราชทานสัญญาณจากฟ้า” ในระดับมาก

ทั้งนี้ พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีและมีประโยชน์อย่างมาก แต่ DLTV ก็เป็นเพียงเครื่องมือและเป็นสื่อเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือครูปลายทาง ที่จะต้องให้ความใส่ใจ สนใจในการอ่านคู่มือ วางแผน เตรียมจัดการเรียนการสอนเป็นอย่างดีด้วย จึงจะทำให้การเรียนการสอนประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ ขอให้มีการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินโครงการให้สังคมได้รับทราบในวงกว้างมากขึ้นด้วย