ความคืบหน้ากรณีที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เข้าตรวจสอบความไม่โปร่งใสภายในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการ ศึกษา (สกสค.) และพบเงินสด พร้อมโฉนดที่ดินหลายฉบับในตู้เซฟภายในห้องทำงานผู้บริหาร สกสค. 2 ราย รวมมูลค่ามากกว่า 2,100 ล้านบาท โดยเงินสดเป็นเงินสกุล "คูนา" ของสาธารณรัฐโครเอเชีย ประเทศในทวีปยุโรป มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. จึงมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบหาผู้เกี่ยวข้อง และว่าได้เชิญผู้บริหาร สกสค. 2 คนที่เกี่ยวข้องมาสอบถามแล้วนั้น

นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เปิดเผยเรื่องนี้ล่าสุดว่า ภายหลังจากที่ตน และคณะทำงาน คตร.ได้ตรวจสอบเจอทรัพย์สิน ทั้งเงินสดสกุลเงินต่างประเทศ พร้อมโฉนดที่ดิน และเอกสารจำนวนมากในตู้เซฟในห้องผู้บริหาร สกสค. 2 ราย ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ที่บริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ดกรุ๊ป จำกัด ใช้ค้ำประกันเงินกองทุน ช.พ.ค.ที่ผู้บริหาร สกสค.นำไปลงทุนร่วมในโครงการโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี วงเงิน 2,100 ล้านบาท ตนจึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงตรวจหาผู้เกี่ยวข้องทันที และได้เชิญผู้บริหาร สกสค. 2 คน ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาสอบสวนแล้ว ซึ่งผู้บริหาร สกสค.ทั้ง 2 คน ได้ชี้แจงว่าทรัพย์สินทั้งหมดในตู้เซฟเป็นหลักทรัพย์ที่บริษัท บิลเลี่ยนฯนำมาค้ำประกัน

“เมื่อถามว่า ทำไมจึงนำทรัพย์สินทั้งหมดมาเก็บไว้ที่ห้องผู้บริหาร สกสค. โดยไม่นำไปเก็บไว้ที่ธนาคาร แต่ทางผู้บริหาร สกสค.ทั้ง 2 คน ไม่ยอมบอกว่าเป็นเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม ตนจะเร่งสรุปผลการสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อรายงาน นพ.กำจร ตติยกวี ปลัด ศธ. ทราบภายในสัปดาห์หน้า” นายพินิจศักดิ์กล่าว