นางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แถลงผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 5/2558 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2558 ที่ผ่านมาว่า คณะกรรมการ ก.ค.ศ.ได้เห็นชอบร่างแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาของอนุกรรมการผู้แทนคุรุสภา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา สืบเนื่องจากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 7/2558 เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค.  ซึ่งส่งผลให้ไม่มีผู้แทนข้าราชการครูในอนุกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการ ก.ค.ศ.จึงได้เห็นชอบให้มีการแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาของอนุกรรมการผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ดังนี้

1.ให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาประกาศรับสมัครบุคคลที่มีคุณสมบัติตามวัน เวลาที่กำหนด 2.ตั้งคณะกรรมการซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เป็นประธาน เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติและพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครให้เหลือเขตละ 2 คน กรณีมีผู้สมัครไม่ครบให้คณะกรรมการคุรุสภาเสนอชื่อให้ครบ 2 คน และให้ส่งรายชื่อไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ. ภายใน 5 วัน นับแต่วันเลือกตั้งผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา

3.ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษารับสมัครบุคคลผู้ที่มีคุณสมบัติ แล้วตั้งสมาชิกคุรุสภาในเขตพื้นที่การศึกษานั้นเป็นคณะกรรมการคัดเลือกจำนวน 7 คน เพื่อพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่สมัครเป็นผู้แทนคุรุสภาให้เหลือเขตพื้นที่การศึกษาละ 2 คน กรณีมีผู้สมัครไม่ครบจำนวน 2 คน ก็ให้ส่งรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเท่าที่มี ไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ.ภายใน 15 วันนับแต่วันเลือกตั้งผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา

4.ก.ค.ศ.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ จำนวน 7 คน ประกอบด้วย กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นกรรมการใน ก.ค.ศ. ฝ่ายละ 2 คน และเลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ เพื่อทำหน้าที่พิจารณาคัดเลือกบุคคลให้เหลือเขตพื้นที่การศึกษาละ 1 คน เพื่อเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาตั้งเป็นอนุกรรมการผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาต่อไป

เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวต่อว่า การปรับแก้ไขหลักเกณฑ์ในครั้งนี้แตกต่างไปจากหลักเกณฑ์เดิม ซึ่งให้เขตพื้นที่การศึกษาและผู้แทนข้าราชการครูในคุรุสภาเสนอชื่อ เปลี่ยนมาเป็นให้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสมัครเข้ารับการคัดเลือกแทน นอกจากเหตุผลในเรื่ององค์ประกอบที่มีความเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ยังเป็นการแก้ปัญหาเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งเป็นข้อร้องเรียนในการดำเนินการสรรหาผู้แทนครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ จะเริ่มใช้หลักเกณฑ์นี้ในการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 42 เขต ซึ่งครบวาระไปแล้ว และใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาที่กำลังจะครบวาระเร็วๆ นี้