ศิษย์เก่านิติศาสตร์ ม.อุบลฯ 6 ราย สอบผ่านอัยการผู้ช่วย ปี 2563 (สนามใหญ่)

นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของศิษย์เก่า คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ที่สร้างชื่อเสียงให้กับคณะและสถาบัน ในการสอบบรรจุเป็นข้าราชการอัยการ ตำแหน่งอัยการผู้ช่วย พ.ศ.2563 (สนามใหญ่) จากจำนวนผู้สมัครสอบทั่วประเทศกว่า 7,000 คน ซึ่งได้รับการบรรจุสนามใหญ่ จำนวน 309 อัตรา โดยมีศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สามารถสอบผ่านข้อเขียน จำนวน 6 ราย พร้อมเข้ารายงานตัว ในวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ตามประกาศคณะอนุกรรมการสอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา   

สำหรับศิษย์เก่า คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ที่สอบผ่านข้อเขียน จำนวน 6 ราย  ประกอบด้วย นายเปรม แสงชา คันชั่ง รุ่นที่ 1, นายอภิวัฒน์ มีทรัพย์ คันชั่ง รุ่นที่ 2, นายภูมิกิจ กวีพันธ์ คันชั่ง รุ่นที่ 3, ร.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีผ่องงาม คันชั่ง รุ่นที่ 6, นายสมพร เสมอสุข คันชั่ง รุ่นที่ 6 และนางสาวธันยธรณ์ เนียมหัตถี คันชั่ง รุ่นที่ 8

อาจารย์ขรรค์เพชร ชายทวีป คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปัจจุบันจบการศึกษารุ่นที่ 13 บัณฑิตได้นำความรู้ในวิชาชีพด้านกฎหมายช่วยเหลือสังคม สร้างอาชีพที่มั่นคงและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับตนเองและครอบครัวเป็นอย่างดี สามารถทำงานได้หลากหลายทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

เช่นเดียวกับความสำเร็จของบัณฑิต หรือศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ทั้ง 6 ราย ที่ประสบความสำเร็จในวิชาชีพในการสอบข้อเขียน ตำแหน่ง อัยการผู้ช่วย พ.ศ.2563 (สนามใหญ่) ประกาศผลเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ซึ่งตรงกับวันรพี

สร้างความภาคภูมิใจให้กับคณะและคณาจารย์ทุกคน ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็มีศิษย์เก่าหลายคนที่สอบผ่าน และดำรงตำแหน่งอัยการผู้ช่วยในปัจจุบัน นับได้ว่าเป็นปีแรกของคณะที่มีผู้สอบผ่านมากที่สุดถึง 6 ราย สามารถเป็นตัวอย่างที่ดี ให้กับรุ่นน้อง และสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับนักเรียนที่สนใจเข้าศึกษาในคณะนิติศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันนักศึกษา รุ่นที่ 17 

ในนามคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ขอแสดงความยินดี และชื่นชมกับศิษย์เก่านิติศาสตร์ ที่สามารถสอบผ่านข้อเขียนในครั้งนี้ และเป็นกำลังใจให้ศิษย์เก่าที่กำลังมุ่งมั่น ตั้งใจ ในการสอบในทุกสนาม บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทุกคนยึดมั่นในปรัชญาที่ว่า“คุณภาพ คุณธรรม นำสังคม”