Safe Zone Schools กับ กิตที่ไม่เป็น มงคล “เต้ พระราม 7” ใจถึง พึ่งได้

เสวนากับบรรณาธิการ วันที่ 2- กันยายน 2563

วิชเทพ ฦาชาฤทธิ์ บรรณาธิการ

Safe Zone Schools กับ กิตที่ไม่เป็น

มงคล “เต้ พระราม 7” ใจถึง พึ่งได้

 

กรณีโครงการ Safe Zone Schools กล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ ซีซีทีวี (CCTV) ด้วยงบประมาณ 577 ล้านบาท ในโครงการ Safe Zone Schools ของกระทรวงศึกษาธิการ ติดตั้งใน 12 เขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 กำลังเป็นชนวนพร้อมจะระเบิดใส่ทุกคนที่เข้าไปพัวพันชนิดบาดเจ็บสาหัสกันทั่วหน้า

ความจริงแล้วโครงการ Safe Zone Schools ของศธ.เป็นโครงการที่ดี มีเป้าหมายชัดเจนเพื่อป้องกัน และสร้างความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินให้กับครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา ตลอดและประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ แบ่งเป็นโรงเรียนใน สพป. จำนวน 10 เขตและสพม. จำนวน เขต รวม 1,104 แห่ง  

ส่วนดีของ CCTV โครงการนี้มีระบบเตือนภัย หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ระบบจะส่งสัญญาณจากกล้องซีซีทีวีไปที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการ เพื่อให้สามารถสั่งการมาช่วยที่เกิดเหตุได้ทัน

แต่กลับกลายเป็นว่า แม้ช่วงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง มีกลุ่มบุคคลได้เข้าไปแทรกแซง ชี้นำ และใช้กลอุบายเพื่อให้กรรมการตรวจรับงานไม่ตรงตามTOR และเบิกจ่ายเงิน ค่าจัดซื้อจนสำเร็จ ท่ามกลางเสียงตั้งข้อคำถามปนข้อสังเกตถึงความผิดปกติมากมาย

ไม่ว่าเป็นเรื่อง ระบบสัญญาณของกล้องจากสถานที่ติดตั้งในสัญญาไม่สามารถเชื่อมต่อกับจังหวัด และ กอ.รมน.ภาค 4 ได้ เมื่อตรวจสอบพบว่า เป็นแค่กล้องวงจรปิดที่ดูบริเวณโรงเรียนทั่ว ๆไปหรือภายในหน่วยงานธรรมดา ๆ ราคาไม่กี่ร้อยเท่านั้น จึงไม่เกิดประโยชน์และไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เนื่องจากมีการทุจริตตั้งแต่เริ่ม

ที่ร้ายไปกว่านั้น พบว่าในบางโรงเรียนกล้องเสีย 70-80% เพราะมีการทุจริตในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง  

นอกจากนี้ ยังมีการแฉข้อมูลเบื้องต้นจากพื้นที่ระบุถึงว่า มีกลุ่มบุคคลที่เสียประโยชน์ที่ได้รับโครงการมาโดยมิชอบ ได้พยายามวิ่งเต้นผู้มีอำนาจสั่งการในสพฐ. และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาให้ถูกต้องตามTOR โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ต่อส่วนรวมด้วย

จากข้อมูลดังกล่าว ยกอ้างถึงอดีตที่ปรึกษารมว.ศธ. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ มือปราบทุจริตในรั้วเสมา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันอังคารที่ 3 เดือนมิถุนายน 2018 ตอนหนึ่งว่า ซีซีทีวีมีบริษัทเอกชนขอเข้าพบพูดขอให้ช่วย และพูดเป็นนัยว่าจะเสนอผลประโยชน์ให้ แต่มือปราบบอกไปว่าไม่ได้ ไม่ต้องการอะไรแล้ว ผมมีเงิน ไม่ได้คิดจะมากอบโกย ที่มาทำเพราะต้องการดูแล ศธ.เป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะหมดกำลัง

จนในที่สุด เมื่อวันที่ ส.ค.62  กลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น ได้ยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ.รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ.ที่กำกับดูแล สพฐ.  เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รับทราบถึงความไม่ชอบมาพากล และ ให้เร่งแก้ไขให้ถูกต้อง ให้เร่งรัดติดตามแก้ปัญหาระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในโครงการ CCTV ที่ใช้งานไม่ได้ และ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งใน ศธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วกว่า 70 รายไปแล้ว

โดยระบุถึง มีกลุ่มบุคคได้เข้าไปแทรกแซง ชี้นำ และใช้กลอุบายเพื่อให้กรรมการตรวจรับงานไม่ตรงตามTORและเบิกจ่ายเงิน ค่าจัดซื้อจนสำเร็จ ซึ่งกลุ่มธรรมาภิบาลได้ร้องเรียน และ แจ้งข้อมูลถึงความไม่ถูกต้องตั้งแต่แรกเป็นระยะๆขอให้ตรวจสอบปัญหาความไม่โปร่งใสด้วย

ล่าสุดแห่งความร้อนแรงของโครงการ Safe Zone Schools ทะลุมิติเกินหมื่นองศาฟาเรนซไฮ ในโลกออนไลน์ ไปแล้ว เมื่อมีการส่งข้อมูลเป็นคลิบเสียง ของแก๊งปริศนา คล้ายๆ ส.ส.คนดัง กำลังเจรจาเพื่ออาสารับร้องเรียนแล้ว และหาช่องทางเข้าข่มขู่เรียกรับประโยชน์เรียกรับเงินจากตัวแทนบริษัทที่รับติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดจ่ายเงินก้อนหนึ่ง จำนวน 12 ล้านบาท  แลกกับการเคลียร์สื่อมวลชนและคนใหญ่คนโตในหลายวงการ    

คลิปนี้เป็นเสียงสนทนาของคน คน ประกอบด้วย นาย ต. คือ นักการเมืองหนุ่ม ปัจจุบันเป็นนักการเมืองฝีปากกล้า ขาสั่น ชอบทำตัวเป็นนักเลงทั้งในสภาและนอกสภา ซึ่งช่วงหนึ่งของการสนทนาในคลิปเสียงได้ขึ้นเสียงแสดงอำนาจ บอกกับตัวแทนบริษัทที่จำความได้ชัดเจนว่า ทุกอย่างไม่ได้เกี่ยวกับตน เพราะเป็นคนกลางคอยจัดการให้ เชื่อก็ทำ ถ้าไม่เชื่อก็ไม่ต้องทำ ถ้าตนเองโกรธขึ้นมา ไม่ว่าใครจะใหญ่แค่ไหนก็พัง เครียร์กันให้จบ ตนเองนักเลงพอ โครงการใหญ่แค่ไหนก็ล้มได้หมด เพราะสามารถดึงพวกพ้องมาช่วยเหลือได้เพียบเลยหากอยากให้เรื่องจบ ก็ให้นำเงินก้อนนี้ไปโยนไว้ที่ท้ายรถข้างหลังรถกระบะ

จากนั้น ในคลิปเสียงที่ถูกปล่อยออกมา พยายามพูดจาหว่านล้อมให้ตัวแทนบริษัทยินยอมจ่าย 12 ล้าน อ้างว่าเพื่อนำไปเคลียร์กับสื่อมวลชน และคนใหญ่คนโตอีกหลายคน เพื่อให้ยุติข่าวฉาวด้านลบของบริษัท ที่ส่งผลกระทบต่อการรับงานในโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด

ส่วนคนที่ 2 คือ นาย ป.พรรคพวกของนักการเมืองผู้นั้น ได้ยินเสียงสนับสนุนลูกพี่คอยเสริมบ้างเป็นบางช่วง  และบุคคลคนที่ คือ ตัวแทนบริษัทรับติดตั้งกล้องวงจรปิด ที่ได้ยินเสียงตอบรับในลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้ด้วยอาการพอจะคาดเดาได้ว่า มีความหวาดหวั่นพรั่นพรึงในเสียงตอบรับที่ยอมรับเพื่อให้เรื่องจบ ๆ จะได้จบและพาต้วเองออกจากสถานะการณ์ที่ย่ำแย่เสียโดยเร็ว

เชื่อว่า คลิปเสียงนี้จะถูกปั้นแต่งออกมาในลักษณะใส่ร้ายป้ายสี เอาดีใส่ตัว หาชั่วให้คนอื่นหรือไม่อย่างไร คงต้องดูสรุปบทสุดท้ายว่า เรื่องนี้จะจบลงด้วยแบบใดผู้ใหญ่ไก่เขี่ยเข้ามาเกลี้ยกล่อมเพื่อผดุงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคง อันพึงมีมิตรไมตรีที่ดีต่อกันในอนาคตที่ยังมีงานให้ร่วมกันทำร่วมกันสงเคราะห์ก็ได้

ซึ่งอย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังมีเรื่องราวให้ชวนคิดและตั้งข้อสังเกตถึงคลิปเปิดโปงเสียงเจรจาเรียกรับเงิน 12 ล้านในโครงการ safe zone school เขตการศึกษา 6 สามชายแดนใต้รวม จ.สงขลา กระทรวงศึกษาธิการ จากบริษัทติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ว่านี้ ย่อมกระเทือนถึงทหารใหญ่ที่เคยนั่งเก้าอี้ รมช.ศธ.ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องถึงการส่งนายทหารเข้าไปข่มขู่ให้ผู้บริหารส่วนการศึกษาชายแดนลงชื่อรับกล้องวงจรปิดที่ใช้การไม่ได้ แต่ทางฝ่ายครูผู้บริหารชายแดนใต้แห่งหนึ่งไม่ยอมเซ็นต์ชื่อรับกล้องวงจรปิดที่ใช้การไม่ได้ จึงกลายเป็นประเด็นร้องเรียนไม่เกิดประโยชน์และไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เนื่องจากมีการทุจริตตั้งแต่เริ่ม

เรื่องนี้คงต้องใช้วิจารณญาณในการรับฟังในช่วงบ้านเมืองทุกนาที เพราะถูกผูกโยงเข้าไปใช้บริการ “เต้ พระราม 7” เป็นคนประสาน เรียกรับเงินจากบริษัทที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด แถมพูดเชิงข่มขู่แล้วยกตัวเองทำนองว่า “นักเลงพูดคำไหนก็คำนั้น”  เพื่อให้บริษัทกล้องวงจรจ่ายเงินแลกกับการเคลียร์สื่อต่างๆและเคลียร์ผู้ใหญ่

น่าแปลกใจกันไหมว่า แม้ขณะนี้โครงการ safe zone school เขตการศึกษา 6 สามชายแดนใต้รวม จ.สงขลา วงเงิน 577 ล้านบาท ของกระทรวงศึกษาธิการ  ยังไม่จบ แถมกำลังลุกลามขยายผลไปอย่างกว้างขวาง หาตัวการใหญ่ผู้กระทำความผิดคิดทุจริตฉ้อฉลต่อแผ่นดินยังไม่ได้  แต่คณะกรรมการชุดเดิมฯกลับชงขอใช้งบประมาณอีก 64 ล้านบาท จัดซื้อซอฟแวร์ของระบบกล้องซีซีทีวีเพิ่มเติมในโครงการให้ครบตามสัญญา

ความคืบหน้า มีเพียงสพฐ.แค่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงข้าราชการที่เกี่ยวข้องจำนวน 56 รายนั้น รวมถึงการพิจารณาของ ป.ป.ช. และรอให้คำพิพากษาของศาลลงมา เพื่อจะได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง สนับสนุนข้อมูลในการพิจารณาของสำนักงาน ป.ป.ช. และศาลสูงสุด เท่านั้น

ดีแต่ว่า งบ 64 ล้านบาท ถูกนายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ยับยั้ง พร้อมนำเรียนเสนอนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เพื่อรับทราบ ซึ่งได้สั่งให้ยกเลิกไปก่อน เนื่องจากมีข่าวรั่วถึงเริ่มมีการตกเบ็ดเรียกรับเงินกันบ้างแล้ว เพียงไม่รู้ว่าเรียกกันที่ไหนอย่างไร

ถ้าอยากรู้จริง ๆ จะลองใช้บริการนักเลง “เต้ พระราม 7” ใจถึง พึ่งได้  ไม่ผิดหวังแน่นอน  เพราะแค่สั่งให้ยกเลิกไปก่อน

เสวนากับบรรณาธิการ : EDUNEWSSIAM