ชมรม ผอ.สพท.ร้องพรรคการเมือง-สภาฯ สั่ง สพฐ.เลิกใช้งบฯเหลือจ่าย 454 ล. ซื้ออุปกรณ์เรียนรู้เอไอ หวั่นส่งกลิ่น

นายธนชน มุทาพร ประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ได้ลงนามในหนังสือชมรมฯ เรื่อง “การเร่งรีบนำงบประมาณเหลือจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ.2563 มูลค่า 454 ล้านบาท มาจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์สำหรับโรงเรียน สพฐ.” ส่งถึงหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ และประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องให้ผลักดันผู้มีอำนาจได้สั่งทบทวนและชะลอการซื้ออุปกรณ์ดังกล่าว

เนื่องจากเห็นว่า เป็นการเร่งรีบนำงบประมาณเหลือจ่ายจากโครงการสำคัญอื่นๆ มาใช้ ประกอบกับการจัดซื้ออุปกรณ์ในโครงการใหม่นี้ ยังมีความไม่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดสเป๊ก อาจมีผู้รับและผู้เสียประโยชน์ รวมทั้งเสนอให้นำงบฯเหลือจ่ายดังกล่าวนี้ไปใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์โรคติดต่อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังได้รับไม่เพียงพอทั้งในระดับสถานศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ทั้งนี้ เนื้อหาในหนังสือชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ระบุว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีหนังสือแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ความจำเป็นเร่งด่วนที่จะพัฒนาคุณภาพนักเรียน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการต้องการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพโรงเรียนขนาดเล็กและปรับวิธีการการจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนมีประสบการณ์การเรียนรู้ 

ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้จัดทำโครงการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถให้กับนักเรียนโรงเรียนคุณภาพประจำตำบลและโรงเรียนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และโรงเรียนขนาดเล็กที่ดำรงอยู่ด้วยตนเองนั้น

ชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ได้เห็นความจำเป็นที่จะพัฒนาคุณภาพนักเรียน พัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพโรงเรียนขนาดเล็กและปรับวิธีการการจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนมีประสบการณ์การเรียนรู้ แบบองค์รวม (STEM Education) และยินดีสนับสนุนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา

แต่ทางชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ยังมีข้อห่วงใยในการดำเนินการที่เร่งรีบนำงบประมาณรายจ่าย พ.ศ.๒๕๖๓ (งบประมาณเหลือจ่ายที่ตั้งจ่ายไว้) จำนวนเงินรวม ๔๕๓,๙๘๙,๓๙๐ บาท ที่เป็นเงินเหลือจ่ายจากงบลงทุน (ค่าครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง) กิจกรรมการจัดการศึกษาประถมศึกษาสำหรับโรงเรียนปกติ กิจกรรมการก่อสร้างปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียนและสิ่งก่อสร้างสำหรับโรงเรียนปกติ กิจกรรมการจัดการศึกษาสำหรับโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ และโรงเรียนในเขตพื้นที่สูงและถิ่นทุรกันดาร 

ซึ่งการเร่งรีบที่กำหนดให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา ต้องส่งคืนงบประมาณส่วนกลางภายในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ แล้วนำงบประมาณนี้นำไปใช้สำหรับโครงการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถให้กับนักเรียน ที่เป็นโครงการใหม่ การกำหนดกิจกรรม เช่น จัดหาอุปกรณ์การเรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์ ชุดตัวต่อหุ่นมนุษย์ ซึ่งยังมีความไม่ชัดเจน และการกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะอุปกรณ์การเรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์อาจกำหนดคุณสมบัติที่อาจมีผู้รับและผู้เสียประโยชน์ ที่อาจสร้างความยุ่งยากในการดำเนินการจัดซื้อตามระเบียบของทางราชการ

ประกอบกับในช่วงสถานการณ์โรคติดต่อจากไวรัสโคโรน่า ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ๒๕๖๓ จนถึงปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ยังไม่ได้จัดสรรงบประมาณที่เพียงพอต่อการบริหารจัดการสถานการณ์โรคติดต่อจากไวรัสโคโรน่า ทั้งในระดับสถานศึกษาที่เงินอุดหนุนยังใช้อัตราเดิม และงบประมาณให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ยังมีความจำเป็นในการช่วยเหลือและสนับสนุนการจัดการศึกษาให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคของสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายังมีการค้างจ่ายพอสมควร      

ดังนั้น ชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทยจึงร้องเรียนมายังพรรคการเมืองต่างๆ ได้โปรดพิจารณาให้ผู้มีอำนาจได้ทบทวนและชะลอการดำเนินการซื้ออุปกรณ์การเรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์สำหรับโรงเรียนตามโครงการฯไว้ก่อน

ทั้งนี้ เพื่อความชัดเจนในการกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะอุปกรณ์การเรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์สำหรับโรงเรียน และนำเงินงบประมาณนี้จัดสรรให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาเพื่อนำไปใช้สำหรับการป้องกันโรคติดต่อจากไวรัสโคโรน่า จ่ายค่าสาธารณูปโภคที่ค้างจ่ายและนำไปพัฒนาผู้เรียนตามสภาพความจำเป็นนี้ก่อน