ร่างเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะครูแนวใหม่ใกล้คลอด มุ่งสะท้อนพัฒนาการครู-นักเรียน เลิกทำรูปเล่มเอกสารเสนอ ให้ยื่นผ่านออนไลน์แทน ทราบผลภายใน 2-3 เดือน

รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยกับสื่อมวลชนประจำกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ถึงความคืบหน้าการปรับปรุงหลักเกณฑ์การขอมีและเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแนวใหม่ ตามนโยบายนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งระบบ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาครูและยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนอย่างแท้จริงว่า

คณะทำงานปรับปรุงหลักเกณฑ์การขอมีและเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูใหม่ ได้วางกรอบแนวทางการประเมินโดยยึดหลักการลดความยุ่งยาก มีความทันสมัยและทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งจะประกอบด้วย 4 แนวทาง คือ 1.ลดความซ้ำซ้อนของการประเมิน โดยจะรวมการประเมินวิทยฐานะของครูกับเงินเดือนเป็นเรื่องเดียวกัน เรียกว่าหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance appraisal) หรือ PA ซึ่งเป็นระบบที่ค่อนข้างทันสมัยมาก มีการทดลองใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา

2.จะประเมินผ่านรูปแบบออนไลน์ทั้งระบบ ครูไม่ต้องยื่นกระดาษอีกต่อไป เพื่อให้ทันสมัย โดยจะเป็นระบบออนไลน์ที่เป็นมิตรกับครู ไม่ยุ่งยาก และจะเชื่อมโยงกับสถานศึกษา เพื่อไม่เป็นปัญหาเมื่อครูมีการโยกย้ายสถานศึกษา ซึ่งในขั้นตอนการยื่นประเมิน สถานศึกษาจะทำหน้าที่เป็นหน่วยวิเคราะห์โดยผู้บริหารสถานศึกษา โดยอาจจะมีวงรอบการประเมินตามเงินเดือน คือเดือนเมษายนและตุลาคม

3.การประเมินจะมุ่งดูผลการปฏิบัติงานของครู ดูสภาพหน้างานของครูในห้องเรียนว่า ครูสอนดีหรือไม่อย่างไร และ 4.ประเมินผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ซึ่งไม่ใช่แค่ผลสัมฤทธิ์ในภาพรวม แต่จะดูลงลึกด้วยว่าครูสามารถยกระดับทักษะผู้เรียนได้สอดคล้องตามทักษะของโลกในยุคศตวรรษที่ 21 และมีทักษะการทำงานในอนาคต

ส่วนระบบการประเมิน จะเป็นการประเมินความก้าวหน้า ซึ่งแตกต่างจากระบบเดิมที่ครูจะไปสะสมผลงานที่ทำมาแล้ว เอามาเขียนรวบรวมเป็นรูปเล่มนำเสนอ แต่ระบบใหม่จะให้ครูนำเสนอว่าอนาคตข้างหน้าจะทำอะไรบ้าง และจะมีการตามประเมินเป็นระยะๆ จนครบตามมาตรฐานตำแหน่ง

นอกจากนี้ กรณีครูที่ครบระยะเวลาการดำรงตำแหน่งและจะขึ้นวิทยฐานะใหม่ เช่น ครูที่ต้องการเสนอขอเลื่อนวิทยฐานะจากชำนาญการเป็นชำนาญการพิเศษ ครูก็จะต้องส่ง 3 ส่วน คือ 1.คลิปการสอนที่ดีที่สุด เพื่อให้เห็นถึงสภาพหน้างานมากที่สุด 2.แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบคลิปนั้น และ 3.ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก เช่น ครูอาจจะบอกว่าสอนแบบโครงงาน ก็จะประเมินดูโครงงานของเด็กว่าเป็นอย่างไร เป็นต้น

ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้ ครูจะต้องนำเข้าสู่ระบบออนไลน์ แล้วผู้ประเมินก็สามารถประเมินผ่านลิ้งค์ได้เลย ซึ่งจะรวดเร็วมาก ภายใน 2-3 เดือน ก็จะรู้ผลได้เลย ถ้าไม่ผ่านครูก็ส่งใหม่ ไม่ต้องไปรอเวลาอีก

"มีผู้เสนอด้วยว่า ถ้าในกรณีครูเก่งๆ จะสามารถขอเลื่อนวิทยฐานะเลยได้หรือไม่ ไม่ต้องไปรอกำหนดระยะเวลาการคงวิทยฐานะ 5 ปี แล้วจึงค่อยเสนอขอเลื่อนวิทยฐานะได้ ซึ่งเรื่องนี้ทางคณะทำงานได้รับไว้พิจารณาหาวิธีการ เพื่อให้ครูเก่งๆ สามารถก้าวหน้าไปได้เร็วขึ้น”

รักษาการเลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวอีกว่า ความคืบหน้าของกรอบแนวทางการประเมินวิทยฐานะของข้าราชการครูผู้สอนแนวใหม่ดังกล่าว ในขณะนี้ค่อนข้างจะลงตัวเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงนำไปรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ก่อนที่จะนำมาประมวลและสรุปอีกครั้ง คาดว่าตามขั้นตอนจะประกาศใช้ได้ในปีการศึกษา 2564 ที่จะถึง

(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)