สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเปิดการประชุมวิชาการรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 3 และทรงฟังการอภิปรายพิเศษจากครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ทั้ง 11 ประเทศ
หยิกแก้มหยอก
“สิงห์ ราชดำเนิน”
“หยิกแก้มหยอก” กับ “สิงห์ ราชดำเนิน” ผ่านเว็บไซด์ข่าวการศึกษา “EdunewsSiam” วันที่ 28 ตุลาคม 63
...เมื่อ 22 ตุลาคม 2563 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเปิดการประชุมวิชาการรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 3 ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยความร่วมมือของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการ ต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา สถานทูตไทยประเทศในอาเซียนและติมอร์-เลสเต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง...● โอกาสนี้ ทรงฟังอภิปรายพิเศษ โดย ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2562 ในหัวข้อหลากเทคนิค ดึงความร่วมมือจากชุมชนทลายกำแพงข้อจำกัดการเรียนรู้ หัวข้อการจัดการศึกษาเพื่อผู้เรียนที่หลากหลายจากประสบการณ์สุดยอดครูการศึกษาพิเศษ และ หัวข้อห้องเรียนแห่งความสุขหลากเทคนิคการสอนให้เด็กรักเรียน...● ทั้งนี้ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีจัดขึ้นทุก 2 ปี ครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ.2562 เพื่อพระราชทานแก่ครูที่มีคุณสมบัติดีเด่น เป็นผู้ทุ่มเทและอุทิศตนเพื่อศิษย์ เป็นครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงแก่ชีวิตของศิษย์ และการเป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการการศึกษาระดับนานาชาติในประเทศอาเซียนและติมอร์-เลสเต รวม 11 ประเทศ ประเทศละ 1 รางวัล...●
…ฟังแล้วในช่วงอภิปรายวันที่สองของงาน กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ภาพชัดครูแต่ละคนแต่ละที่ พยายามบอกเล่าปัญหาและทางแก้ปัญหายุคโควิด-19 ระบาด ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะอยู่กับโควิดไปอีกนานแค่ไหน หลังโรงเรียนถูกปิดเด็กเรียนน้อยลง เป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ เพราะ การไปโรงเรียนไม่ใช่แค่อ่านออกเขียนได้ แต่มีพัฒนาการทางสังคม สมอง ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนเล่น ยิ่งเด็กกลุ่มเปราะบาง เด็กยากจนจะยิ่งกระทบอย่างมาก ...● ส่งสัญญาณจาก ดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ นักเศรษฐศาสตร์ด้านพัฒนามนุษย์ กลุ่มงานการศึกษา ประจำธนาคารโลก สำนักงานประเทศไทย ไปถึงเจ้ากระทรวงศึกษาฯ ในอนาคตข้างหน้าหากเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกสอง หวังว่าหน่วยงานภาครัฐจะหาแนวทางรับมือที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อไม่ให้เด็กต้องสูญเสียโอกาส ในการเรียนมากไปกว่านี้...● ตอกย้ำส่งท้ายของ อุดม วงษ์สิงห์ ผอ.สำนักพัฒนาคุณภาพครูนักศึกษาและสถานศึกษา กสศ. มองไปในอนาคตเราต้องเตรียมพร้อมเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เราจะรับมือกับมันได้ เทคโนโลยี ระบบออนไลน์ ออนแอร์ ออนไซต์ ต้องทำควบคู่กันไป ฮื่อ...ในรั้ววังจันทรเกษมคนเก่งดีมีฝีมือก็มีให้เห็นอยู่ แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่เจ้ากระทรวงเขาจะสั่ง ทำได้อย่างเดียวคือส่งประกายตาแสดงความชื่นชม กับ เงียบกริ้บ...●
...ดูตัวอย่าง แค่ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เอ่ยปากต้องการปรับแก้หลักสูตรฐานสมรรถนะการศึกษาพื้นฐาน โดยจะหันไปพึ่งบริการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประสานมิตร ทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเขย่าปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ที่ใช้จัดการศึกษาอยู่ในปัจจุบันเสียใหม่ ก็ยังไม่มีใครยกมือถามว่า หลักสูตรที่ใช้อยู่ในปัจจุบันตอนนี้ เคยผ่านการประเมินตามระบบมาแล้วหรือยัง...● มีแค่ สานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ฝากถามไปถึง ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. พร้อมทั้งเสนอให้ไปศึกษารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 258 จ (4) และยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างทรัพย์มนุษย์ที่เน้นการปฏิรูปการเรียนรู้ พัฒนาและส่งเสริมพหุปัญญา การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและนโยบายเร่งด่วนเรื่องการเตรียมคนสู่ศตวรรษที่ 21 ตามนโยบายด้านการศึกษา ที่รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม ได้ให้นโยบายไว้...ศึกษาเสียก่อนดีกว่าม่ะ...● แต่นี่กระไร นายหัว ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ.ประกาศเปรี้ยง หลักสูตรการแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่นี้ จะเริ่มกันตั้งแต่ระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จะทันใช้ในปีการศึกษา 2565...ราวกับเวลาแค่ปีเดียวเหมือนอะลาดินขัดตะเกียงวิเศษได้ยักษ์ออกมาเสกเป่าเนรมิตดังใจนึก ระวังหลักสูตรใหม่จะเสียทั้งเวลาและงบประชุมทำการ จะกลายเป็นหลัก...อย่างอื่นไปเด้อ...●
…ขนาดมืออาชีพอย่าง วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ยังไม่อาจหาญคิดทำการผู้เดียว ให้ข้อคิดการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนการสอน การพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรการศึกษา เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขระยะยาว ขนาดดำเนินการไปแล้วหลายส่วน ยังต้องให้ประชาชนเป็นเจ้าของเขาเห็นชอบ ไม่ใช่ ศธ. เป็นเจ้าของ โอ้ย...เจ็บๆๆ...● อึดอัดใจรึเปล่าไม่รู้ จับหางเสียง อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กระบวนการทำหลักสูตรใหม่มีหลายขั้นตอน ตั้งแต่กำหนดกรอบความคิด การนำหลักสูตรไปทดลองใช้ การประเมินหลักสูตร จนตกผลึกมีความสมบูรณ์พร้อม จึงจะประกาศใช้หลักสูตรได้...“ สิงห์ ราชดำเนิน” ได้แต่เห็นใจ เมื่อนายใหญ่ใจร้อน เพื่อให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ตรวจสอบเสียงจากหลายฝ่ายแล้ว ถ้าไม่ฟังประชน ขืนลุยถั่วไปตามลำพัง ยุคนี้นกหวีดไม่มีราคาแล้ว...● มาถึง โครงการอบรมปฏิบัติการการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครู Coding for Teacher : C4T ตามที่ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศธ. ตั้งใจผลักดันให้เด็กไทยมีทักษะการเรียนรู้ เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริงได้ในสังคมโลกยุคปัจจุบัน สสวท. แต่งตั้งให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 (หนองคาย-บึงกาฬ) เป็นศูนย์จัดฯ แม้ไอเดียดี แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปกันได้แค่ไหน สักกี่เปอร์เซนต์...● เมื่อผลการสำรวจพบว่า ครูทุกระดับชั้นส่วนใหญ่สอนวิชาวิทยาการคำนวณไม่ครบทุกเนื้อหา ไม่เข้าใจจุดมุ่งหมายของหลักสูตรและตัวชี้วัด รวมทั้งยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาวิทยาการคำนวณ ทำให้โรงเรียนส่วนใหญ่ยังไม่ได้สอนวิชาวิทยาการ
คำนวณและโค้ดดิ้ง ยังไงก็ฝาก สมใจ วิเศษทักษิณ ผู้อำนวยการ สพม.21 จบงานแล้ว หากจะติดตามผลการจัดอบรมให้สังคมรับรู้ได้ก็ดี เห็นว่า ใช้งบไปมิใช่น้อย คราวนี้ มีวิทยากรจาก สสวท. มาให้ความรู้กับครูผู้เข้าร่วมอบรมด้วยล่ะ...● มาแบบไม่ต้องนัด ยื่น 11 ข้อหนุนพัฒนาคุณภาพอาชีวะ เศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (ค.ร.อ.ท.) นำเสนอแนวทางแก้ปัญหาและการพัฒนาอาชีวศึกษาแก่ สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการ กอศ.เร่งรัดการสรรหานายกสภาสถาบันการอาชีวศึกษาและแต่งตั้งคณะกรรมการสภาสถาบันทั้ง 23 แห่ง เนื่องจากคณะกรรมการฯดังกล่าว หมดวาระมาเป็นเวลานานแล้ว ...● ตามด้วย แผนการพัฒนาครูบุคลากรที่ชัดเจน เพื่อเปิดโอกาสให้ครูอาจารย์มีความก้าวหน้าในชีวิตราชการ อีกทั้งเร่งรัดการจัดสอบบรรจุข้าราชการครูกรณีพิเศษโดยเร็ว ส่วนการแก้ไขว่าด้วยสิทธิของผู้เรียนที่จบการศึกษาด้านวิชาชีพบางสาขาวิชา แต่ไม่สามารถไปประกอบอาชีพอิสระได้ เนื่องจากมีประเด็นกฎหมายกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สุเทพ ชิตยวงษ์ อดีตเลขาธิการอาชีวะ ขณะนี้เป็นถึง เลขานุการ รมว.แรงงาน น่าจะช่วยได้ คนกันเองทั้งนั้น...● นี่ก็เกินไปหรือไม่อย่างไร เอะอะๆ ก็ตั้งวงร้อง เลิกจำกัด ลิดรอน ละเมิด สิทธิ เสรีภาพนักเรียน วรา จันทร์มณี ตัวแทนเครือข่ายประชาชนพิทักษ์สิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรม โหนกระแส ขอให้ ศธ.กำหนดบทลงโทษครูหรือโรงเรียนที่ฝ่าฝืนกฎ ศธ. จำกัด ลิดรอน ละเมิดสิทธิเสรีภาพนักเรียน เอ...อย่างงี้ทำเหมือนแกล้งมั่วว่าไม่รู้ โทษแต่ละเรื่องจะหนักเบาก็กำหนดไว้ชัด แต่หากเด็กที่ทำอะไรผิด ก็ควรมีบทลงโทษเช่นกัน มิใช่หรือ ...● ว่ากันถึงเรื่องแก้ระเบียบทรงผม สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาข้อเรียกร้องของนักเรียน นักศึกษา ศธ. เสนอให้โรงเรียนสามารถออกระเบียบที่มีความเฉพาะเจาะจงได้ แต่ต้องผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วมของนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนท้องถิ่น และให้ยึดถือหลักความเหมาะสมใน การพัฒนาบุคลิกภาพที่ดีของนักเรียน ...● ส่วน การลงโทษนักเรียน นั้น ต้องลงโทษตามระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษาเท่านั้น คือ ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ และทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ใช่ไปกล้อนผมเด็ก ทำให้เกิดความอับอาย...●
...แต่งองค์ทรงเครื่องแล้ว ไปต่อไม่ได้ สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แจ้งข่าวถึงชาว กศน. คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ คัดร่าง พ.ร.บ.การศึกษาตลอดชีวิต ออกจากสารบบการพิจารณาร่างกฎหมาย ของคณะกรรมการกฤษฎีกา เนื่องจากเป็นร่างกฎหมายที่ไม่มีการเสนอความเห็นเข้ามาตามเวลาที่กำหนด ส่วน สช. และ ก.ค.ศ. ยังกินแห้วไปก่อน เนื่องจากยังไม่ได้ออกแบบหรือปรับองค์กรใหม่ ใครอยากรู้รายละเอียดให้ไปคุยกับอดีตปลัด ศธ. ประเสริฐ บุญเรือง ที่คอยดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาถึงรากหญ้า...● สารจาก อรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ทวงหลายรอบแล้ว แต่โรงเรียนเอกชนไม่มีการตอบรับ ประกาศขีดเส้นขอให้ส่งข้อมูลนักเรียนที่จะต้องได้รับเงินรายหัว ถ้าเกิน 31 ตุลาคมนี้ ถูกตัดสิทธิ์ แสดงว่าสถานศึกษาเอกชนดังกล่าวไม่สนใจเศษเงินจากรัฐ หรืออาจมีแหล่งรายได้อื่นที่มากกว่าหลายเท่าตัว เข้าทำนอง นิ่งเสียตำลึงทอง ...●
…อีกสัญญาณจาก เลขาธิการ กช. ห่วงยอดโรงเรียนเอกชนนอกระบบที่รอเลิกกิจการ 2,421 แห่ง ขณะที่ กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศธ. หารือ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. ถึงนโยบายการศึกษายกกำลังสอง ในส่วนของ สช.เน้นปลดล็อก ปรับแก้ไข กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อเอกชนได้ประโยชน์และคำนึงถึงผู้เรียนเป็นสำคัญ...ก็ลองดูสักตั้ง...● การจะเดินหน้า ศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอควาเรียมสงขลา ต่อ อาจเป็นไปได้ยาก ต้องใช้เงินงบประมาณที่สูงมาก เพราะแผนเดินหน้าก่อสร้างเดิมตั้งงบประมาณไว้ที่ 502 ล้านบาท ปลัดฯ สุภัทร จำปาทอง นั่งดูรายละเอียดทุกอย่างแล้ว ยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เงินจำนวนดังกล่าวก่อสร้างต่อให้เสร็จสิ้น เพราะยังมีระบบอื่นๆ เข้ามาข้องเกี่ยวอีก งานนี้คนที่คอยลุ้นอยู่ข้างหลัง ข่าวว่า ไมเกรนขึ้นปริ้ด ...●
พบกันใหม่ “สิงห์ ราชดำเนิน” สวัสดี
edunewssiam : เสวนากับบรรณาธิการ > หยิกแก้มหยอก
(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)