พระบรมราโชบายร.10 ฉายพระมหากรุณาธิคุณณ วทก.โนนดินแดง

ก่อนสิ้นปีเก่า2563ปีชวดหนูไฟ คุณสุนันทา  พลโภชน์ หรือคุณอ้อยอดีตผอ.กลุ่มงานประชาสัมพันธ์สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)ที่ยังคงผูกพันรักศรัทธากับองค์กรและบุคลากรตั้งแต่ผู้บริหารมีเลขาธิการกอศ.ปัจจุบันคือดร.สุเทพ  แก่งสันเทียะไปจนผู้อำนวยการวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนนักศึกษาที่ร่วมเกื้อกูลกันมายาวนานทั้งในฐานะนักประชาสัมพันธ์และในนามของเรือจ้างครูผู้ให้ผู้ตั้งใจส่งลูกหลานเยาวชนไทยถึงฝั่งพบความดีงามความสำเร็จแห่งชีวิตนำความรู้ความสามารถและความเป็นคนดีไปสร้างฐานะครอบครัวและเกื้อกูลสังคมตามโอกาสและสำนึกแห่งหัวใจเสียสละอาสาคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งด้วยเมตตาเอื้อเฟื้อให้อภัยและยึดมั่นอยู่ในความกตัญญู

หัวใจที่ผมอยากจะย้ำตรงนี้โดยที่ผ่านมาก็เน้นย้ำผ่านการเสนอเนื้อหาเรื่องราวที่ได้ไปเยือนแต่ละวิทยาลัยมาตลอดว่า สอศ.โดยผู้บริหารตั้งแต่ระดับสูงนำโดยเลขาธิการไปจนถึงผู้อำนวยการวิทยาลัยได้รวมพลังความตั้งใจเป็นหนึ่งในการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงให้ต้องมุ่งสร้างพื้นฐานแก่ผู้เรียน 4   ด้าน 1. มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม  3. มีงานทำ มีอาชีพ  และ4. เป็นพลเมืองที่ดี ที่ทรงมุ่งมั่นในพระราชหฤทัยสืบสาน  รักษาและต่อยอดพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบาศร์ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติพระบรมราชินีนาถ  พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ทรงตั้งพระราชปณิธานให้องค์กรที่ดูแลรับผิดชอบด้านการศึกษาน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมุ่งสร้างคนดีให้บ้านเมือง โดยรัฐบาลน้อมนำมาเป็นนโยบายให้ประชาชนทั้งประเทศน้อมนำปฏิบัติให้กระทรวงศึกษาธิการประชาสัมพันธ์ผ่านสถานศึกษาเพื่อการปฏิบัติในชีวิตจริงเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สังคมประเทศชาติตกอยู่ในภาวะวิกฤติเช่นเกิดโรคระบาดโควิด-19 ดังที่เกิดขึ้นทั่วทั้งโลกในเวลานี้ การตั้งสติอยู่ในความไม่ประมาทในการดำเนินชีวิตความเป็นอยู่และสร้างวิถีพึ่งพาตนเองตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงนับเป็นหัวใจการดำเนินชีวิตที่จะนำไปสู่ความเป็นสุขแบบพอเพียงได้

สอศ.หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาโดยนโยบายผู้บริหารเน้นย้ำผู้ดูแลรับผิดชอบวิทยาลัยในสังกัดทั่วประเทศเน้นย้ำปลูกฝังให้นักเรียนนักศึกษาครูอาจารย์บุคคลากรในองค์กรยึดการดำรงชีวิตตามวิถีพอเพียง มีสติ ไม่ประมาท ประหยัดอดออม  อดทน ไม่เห็นแก่ตัว ศึกษาหาความรู้ความเชี่ยวชาญด้านวิชาชีพตามช่องทางโอกาสที่ผู้บริหารครูอาจารย์และภาคธุรกิจเอกชนที่มุ่งดีเข้าเกื้อกูลมอบทางเลือกอาชีพหรือส่งเสริมให้เกิดความชำนาญมีความรู้ยิ่งขึ้นในวิชาชีพที่เรียนถึงวิทยาลัยอย่างโครงการฝึกอบรมทักษะวิชาชีพการก่ออิฐ ฉาบปูนสไตล์ลอฟท์ ที่ทางผู้ผลิตจำหน่ายปูนลอฟท์ตราลูกดิ่งไปฝึกอบรมให้หลายต่อหลายวิทยาลัย ก่อนสิ้นปีก็ที่วกท.วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการโนนดินแดง

คุณสุนันทาได้รับการเชิญชวนจากองค์กรธุรกิจภาคเอกชนผู้ผลิตปูนลอฟท์ตราลูกดิ่งหรือบริษัทบริษัทควิกโคท โปรดักส์ จำกัดโดยคุณนุช  ยิ่งไพบูลย์ผู้จัดการ และวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการโนนดินแดง(วทก.โนนดินแดง) จังหวัดบุรีรัมโดยผอ.ลำพูน  ครอบแก้วร่วมจัดทำโครงการฝึกอบรมทักษะวิชาชีพการก่ออิฐ ฉาบปูนสไตล์ลอฟท์ ให้กับนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ช่างผู้รับเหมาทั่วไปและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการในฐานะที่เป็นผู้จุดประกายให้องค์กรธุรกิจเอกชนกับวิทยาลัยสังกัดอาชีวะร่วมเกื้อกูลเพิ่มทักษะฝีมือและให้โอกาสทางเลือกการเรียนการฝึกอาชีพกับนักเรียนนักศึกษาอาชีวะและผู้รับเหมาประชาชนทั่วไปที่สนใจไปเยือนสังเกตการณ์กิจกรรมชวนสื่อมวลชนไปด้วย3-4คนรวมทั้งผมด้วย ท่านเลขาธิการกอศ.ดร.สุเทพ  แก่งสันเทียะก็ให้ความสำคัญกับโครงการแวะไปเยี่ยมเยือนไปดูกิจกรรมการ ก่ออิฐ-ฉาบปูลอฟท์ด้วยในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563 (ท่านเลขาได้บอกถึงความสำคัญการฝึกพิเศษในวิชาชีพต่างด้วยแล้วจะนำมาถ่ายทอดในช่วงต่อไป)แล้วออกจะโชคดีช่วงกลางเดือนธันวาคม63 ความหนาวเย็นย้อนกลับมาให้ได้สัมผัสที่โนนดินแดงบุรีรัมย์ ช่วงเช้าสองวันที่วิทยาลัยนอกห้อวพกลมพัดเบาๆนำอากาศเย็นขนาดขนาด18-20องค์ศาเซลเซียสกำลังสบายชื่นใจเลยทีเดียวก่อนที่แสงแดดจะลามเลียไล่ความเย็นค่อยๆจางไปจนไม่นานกลายเป็นความร้อนดังปรกติกลางคืนเย็นกลางวันร้อน

ที่ย้อนพูดถึงวทก.โนนดินแดงเพียงอยากฉายภาพข้างต้นเป็นสำคัญ

เพราะจริงๆแล้วก็ลงข่าวกิจกรรมความร่วมมือทำโครงการระหว่างธุรกิจภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพทางเลือกคือการก่ออิฐฉาบปูนสไตล์ลอฟท์อันกล่าวได้ว่าเป็นนวัตกรรมมีพัฒนาการทันสมัยชี้ให้เห็นว่าภาคเอกชนให้ความสำคัญด้านการศึกษาสายอาชีพไทยให้การสนับสนุนโดยไม่หวังผลตอบแทน

แต่ด้วยยังรู้สึกว่ามีอะไรค้างคาที่อยากถ่ายทอด เฉพาะอย่างยิ่งที่เกริ่นมาข้างต้นคือการจัดการเรียนการสอนทั้งในระบบ ทั้งการส่งเสริมอาชีพทางเลือกแล้วจัดโครงการให้ฝึกฝนเพื่อสร้างความชำนาญจนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ประกอบอาชีพแม้ขณะที่ยังเรียนอยู่หารายได้เสริม รวมถึงยังเผื่อแผ่แบงปันความรู้ความชำนาญไปยังชาวบ้านด้วย ขาดไม่ได้เลยคือครูอาจารย์ในสายการสอนก็เข้าร่วมฝึกในโครงการด้วยเป้าหมายเพื่อไปแนะนำลูกศิษย์และชาวบ้านต่อไป โดยทั้งหลายทั้งปวงล้วนมุ่งเน้นเดินตามพระบรมราโชบายทั้งสิ้น

นี่คือภาพประจักษ์ของสถานศึกษาวิทยาลัยในสังกัดอาชีวะที่ยึดหลักเดินตามพระยุคลบาทพระบรมราโชบายภายใต้พระราชปณิธานสืบสาน  รักษาและต่อยอดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในช่วงที่สังคมประเทศชาติกำลังอยู่ในวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 เพื่อการประคองตน ครอบครัว วิทยาลัยและสังคมพื้นถิ่นโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงคือไม่ประมาทเป็นเกาะป้องกันดำเนินชีวิตมีความสุขแบบพอเพียงสืบไป

อย่างที่บอกกิจกรรมโครงการฝึกอบรมทักษะวิชาชีพการก่ออิฐ ฉาบปูนสไตล์ลอฟท์ ให้กับนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ช่างผู้รับเหมาทั่วไปและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการเสนอเป็นข่าวไปแล้ว แต่ก็บอกย้ำข้างต้นว่ามีจุดเน้นที่อยากถ่ายทอดบอกเล่าก็ได้สรุปนำเสนอในคราวนี้ซึ่งค้างข้ามปีมาจนปีใหม่ฉลูหรือปีวัวยังไม่รู้ว่าจะวัวไฟ วัวธนู วัวทอง หรือวัวอะไร แต่วัวส่วนใหญ่เกื้อกูลสังคมไทยอยู่กับการเกษตรเช่นเดียวกับกระบือ จึงอยากให้ประชาชนคนไทยอย่าละเลยลืมหลงสคส.พระราชทานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานอวยพรเป็นสิริมงคลแก่คนไทยในเทศกาลปีใหม่2564 ปีฉลูนี้

คิดว่ายังมีอะไรภายในวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการโนนดินแดงที่อยากจะเล่าสู่กันอีก รวมถึงนอกวิทยาลัยรอบๆปริมณฑลวิทยาลัยไม่มากแต่ก็อยากจะเล่าเพราะมองว่าเป็นความดีงาม แต่วันนี้ขอแค่นี้ก่อนครับ

          เลยถือโอกาสส่งความสุขเทศกาลปีใหม่ปีวัวเกษตรกับสมาชิกแฟนๆedunewssiamทุกท่านรวมถึงชาวแวดวงการศึกษาพ่อแม่ผู้ปกครองรักเรียนนักศึกษาประชาชนทั่วไปทุกขอจงมีความสุขความเจริญงอกงามดำเนินชีวิตตามวิถีนิวนอร์มอลโดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯเป็นเครื่องนำทางสู่ความสุขอย่างยั่งยืนทุกท่านทุกคนครับHappy New Year 2564

ทรงสร้างประโยชน์สุขทั้งแผ่นดิน

เสกสรร  สิทธาคม

Seksan2493@yahoo.com

Edunewssiam.com