นางฐิรนันท์  มณีรัตน์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยบริหารธุรกิจและการท่องเที่ยวกรุงเทพ (วบท.กรุงเทพ)กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วบท.กรุงเทพเน้นสร้างผู้กอบการใหม่ขึ้นเพื่อสามารถสร้างงานสร้างอาชีพช่วยเหลือตัวเอง ช่วยเหลือครอบครัวพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นได้ตามวิถีแห่งความพอเพียงพออยู่พอกินและสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นได้ตามศักยภาพความเหมาะสมเป็นเป้าหมายที่วิทยาลัยตั้งมั่นดำเนินการจัดการเรียนการสอนมาอย่างต่อเนื่องโดยใช้ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา  โดยมีรูปธรรมในการนำนักเรียนนักศึกษาหรือผู้ตั้งใจประกอบธุรกิจได้ลงมือปฏิบัติจริงร้านBC-BAT COFFEE เป็นต้นเป็นต้นแบบ เฉพาะอย่างยิ่งในภาวะวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาดที่เวลานี้มีการแพร่เชื้อระบาดรอบสองในประเทศไทยเราทั้งๆที่การระบาดรอบแรกยังประสบความเดือดร้อนกันอยู่ความเดือดร้อนก็มาซ้ำเติมให้เดือดร้อนหนักยิ่งขึ้นทำให้มีผลกระทบกับประชาชนระดับรากหญ้าไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ประสบปัญหากันหมดคนตกงาน การค้าขายชะงัก คนตกงาน ขาดรายได้ค้าขายขาดทุนเศรษฐกิจย่ำแย่อย่างคาดไม่ถึง

       “ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา วบท.กรุงเทพเป็นแหล่งเรียนรู้วิชาชีพบ่มเพาะผู้ประกอบการเพื่อเป็นธุรกิจสอนครบวงจรตั้งแต่อผนธุรกิจ  แผนประชาสัมพันธ์ บนพื้นฐานความไม่ประมาทคือให้รู้จักพอประมาณ รู้จักวางแผนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ธุรกิจตนเองคือดำเนินธุรกิจด้วยความรู้ด้วยความมีคุณธรรม ซึ่งใครก็ได้ที่ตั้งใจจะเป็นผู้ประกอบการสามารถเรียนได้ทั้งสิ้นโดยแผนของวิทยาลัยมีรวม 11 แผนจะจัดสอนให้ครบจบทุกแผน ซึ่งในยามที่ประเทศชาติของเราประสบปัญหาเรื่องโรคเชื้อไวรัสโควิด-19คุกคามเวลานี้จนสร้างความเดือดร้อนกับคนไทยในการดำเนินชีวิต เดือดร้อนเรื่องเศรษฐกิจย่ำแย่ตั้งแต่ในครัวเรือนไปจนถึงระบบรวมทั้งสังคมไทยอยากเชิญชวนให้ศึกษาวิชาชีพไว้น่าจะนำไปช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง”นางฐิรนันท์ มณีรัตน์กล่าว