๑๙ มค.๖๔ข้าราชบริพารหน่วยราชการในพระองค์ พร้อมใจทำความดีร่วมบริจาคโลหิตสำรองในภาวะขาดแคลน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙  ระลอกใหม่ ทำให้มีผู้เข้ารับการบริจาคโลหิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนโลหิต  ไม่เพียงพอกับความต้องการของโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่จะนำไปใช้ในการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั่วประเทศ  ในการนี้  ข้าราชบริพารหน่วยราชการในพระองค์  ได้น้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  มายึดถือปฏิบัติด้วยทรงมีพระราชประสงค์ให้ข้าราชบริพารเป็นแบบอย่างของการเป็นข้าราชการที่ดี  มีจิตอาสา  และมีจิตเมตตา  ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเสียสละ อุทิศตน  ทำความดีเพื่อส่วนรวม  โดยต่างพร้อมใจกันร่วมบริจาคโลหิต

วันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๔  เวลา ๐๙.๐๐  น. ข้าราชบริพารหน่วยราชการในพระองค์จากเขตพระราชฐานพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ ข้าราชบริพารสำนักพระราชวัง  จากสวนจิตรลดา,  สนามเสือป่า  วังสระปทุม,  วังเทเวศร์,  กองงานในพระองค์สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี,  กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์,  จิตอาสาพระราชทานจากศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน และบุคลากรจากโรงเรียนจิตรลดา  พร้อมใจเข้าร่วมบริจาคโลหิต  ณ เขตพระราชฐานในพระองค์ ฯ ราชวิถี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร  ในวันดังกล่าว  มีศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เป็นหน่วยบริการที่เข้ารับบริจาคโลหิต  โดยมีข้าราชบริพารผ่านการคัดกรอง ร่วมบริจาคโลหิต จำนวน  307 คน   ได้โลหิต จำนวนรวม  122,800  ซีซี  โดยจะนำไปเป็นโลหิตสำรอง  ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการนำไปใช้รักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยต่อไป 

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙  หรือโรคโควิด ๑๙  ส่งผลให้มีผู้บริจาคโลหิตลดลงอย่างต่อเนื่อง  จนทำให้จำนวนโลหิตสำรองในโรงพยาบาลต่าง ๆ มีจำนวนลดน้อยลง  ซึ่งในการพร้อมใจกันร่วมบริจาคโลหิตของข้าราชบริพารในพระองค์ในวันนี้  แสดงให้เห็นถึงการเป็นแบบอย่างของข้าราชการที่ดี เสียสละอุทิศตน ช่วยเหลือและทำความดีเพื่อส่วนรวม ปฏิบัติตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ที่จะให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข  โดยในการเข้ารับบริจาคโลหิต  หน่วยราชการในพระองค์ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ อย่างเคร่งครัด  เพื่อให้เกิดความปลอดภัย   ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้บริจาค และส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัยไปยังโรงพยาบาล เพื่อใช้เป็นโลหิตสำรองในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยต่อไป