คิดนอกกรอบ
ครูนี้หนา รักและห่วงเจ้ายิ่งดวงใจ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน : Tulacom@gmail.com
คิดนอกกรอบ 19 มกราคม 2564
ครูนี้หนารักเจ้าเท่าดวงใจ
ว่าไปแล้ว งานวันครูปี 2564 ที่เพิ่งผ่านไป ต่างรับรู้กันว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ปกติ เมื่อมองผ่านงานและกิจกรรมในทุกปีที่ผ่านมา ล้วนมีความเรียบร้อย ยิ่งใหญ่ สง่างาม สมศักดิ์ศรี ท่ามกลางบรรยากาศอบอวลไปด้วยความชื่นชมยินดีที่ศิษย์ทั้งหลายแสดงต่อพระคุณครู ทั้งในฐานะผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่ศิษย์ได้ความรู้ มีอนาคตสดใส มีจิตสำนึกที่รู้ดีรู้ชั่ว สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขกับสังคม
เช่นเดียวกันกับงานวันครู ปี 2564 เมื่อวันที่ 16 มกราคม ครั้งที่ 65 ที่ผ่านมาดังกล่าว เป็นการจัดออนไลน์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยคำขวัญประจำปี 2564 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี "ครูวิถีใหม่ ใส่ใจดิจิทัล สร้างสรรค์คุณธรรมประจำชาติ"
ตามด้วยคำปราศรัยยกย่องครู บุคลากรสำคัญในการพัฒนาขับเคลื่อนระบบการศึกษาชาติ มีบทบาทในการประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ด้วยการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาปรับใช้ เพื่อพัฒนาเยาวชนทุกช่วงวัยให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า และมีศักยภาพสูง
ขณะที่มีกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า นักเรียนเลว จัดกิจกรรมหน้ากระทรวงศึกษาธิการ พร้อมป้าย "พระคุณที่สาม...งดงามแจ่มใส วันครูปีนี้ขอมอบของขวัญคืนครู" มีการติดป้ายข้อความ "เอาความเจ็บปวดคืนไป เอาความปลอดภัยหนูคืนมา" และ "วันครูปีนี้ หนูขอครู อย่าทำร้ายหนู"
พร้อมนำไม้หวาย กรรไกร ไม้บรรทัด มากองทิ้งหน้า ศธ. และเทสีแดงคล้ายเลือดลงไปที่ตัวนักเรียนบริเวณสัญลักษณ์เสมาธรรมจักร ศธ. โดยกิจกรรมต่างๆ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กใช้เวลาประมาณ 15 นาที อีกด้วย
ฟังเสียงวิพากษ์ถึงกิจกรรมของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า นักเรียนเลว วันครูปีนี้ แม้จะมีกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความน่าสะเทือนใจและน่าเศร้าในสังคมไทยแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความผิดพลาดของ ศธ.ที่ไม่พยายามอดทนอดกลั้นเพื่อสร้างความเข้าใจแก่เด็กที่ใช้ชื่อว่า นักเรียนเลว ก่อนวันสำคัญเช่นวันครูมาถึง
หรือร้องขอความร่วมมือที่เป็นแบบอย่างที่สังคมไทยต้องการเห็นศิษย์พึงมีจิตสำนึกที่ดีต่อครู ทั้งกาย วาจา ใจ ในวาระวันครู ภาพและบรรยากาศที่ออกมาให้รับรู้ต่อสังคม คงชื่นมื่นกว่านี้แน่นอน
นี่อาจเป็นเพราะการวางเฉยของผู้บริหารระดับสูงใน ศธ. มองเห็นเป็นแค่ปรากฎการณ์ของกลุ่มเด็กเล็กๆ ที่มั่นใจว่าอีกไม่นาน นักเรียนเลว คงเข้าสู่โหมดความสงบมากกว่ารุกด้วยความแข็งกร้าว
อย่างไรก็ตาม ต่อแต่นี้ไป ศธ.ต้องเร่งนำปัญหาต่างๆ มาศึกษาถึงจุดด้อย จุดแข็ง เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข พัฒนาไปสู่ข้อยุติได้ในหลากหลายวิธีการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ครูหรือบุคลากรที่ประพฤติตนนอกลู่นอกกรอบเป็นที่ประจักษ์ ต้องจัดการกับบุคลากรที่ทำความผิดโดยเร็ว ไม่เลือกปฏิบัติ เชื่อว่าน่าจะคลี่คลายสามารถนำไปสู่ข้อยุติในปัญหาต่างๆ ลงได้ตามลำดับ
และสุดท้ายเนื่องในโอกาสวันครู คุณครูฝากมาถึงศิษย์น้อยทุกคนให้รับรู้ด้วยว่า ไม่ว่าศิษย์จะคิดอย่างไร แต่ “ครูนี้หนา...รักและห่วงเจ้า ตลอดเวลา”
เมื่อถึงนาทีจากลาเด็กไปจริง ๆ สุดฝืนกลั้นน้ำตา ไม่อายใคร
ดังเรื่องราวชวนน้ำตารื้นตื้นตันด้วยความประทับใจ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ Pupay Siwaree ซึ่งเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนบ้านแม่ลิด ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โรงเรียนขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนพื้นที่ห่างไกลเหนือสุดสยาม สังกัด สพฐ. ที่อาจอยู่ในเป้าหมายถูกยุบ ควบรวม ตามนโยบายการศึกษายกกำลังสอง กระทรวงศึกษาธิการ ได้โพสต์เรื่องราวสุดเจ็บปวดเมื่อเธอรู้ว่า ต้องย้ายโรงเรียน ความผูกพันกับนักเรียนนับร้อยชีวิต กว่า 4 ปี
จึงทำให้เมื่อถึงนาทีที่ต้องจากลา ย่อมยากที่จะทำใจได้กับบรรยากาศที่รู้ดีว่าการพลัดพรากครั้งนี้ ยากที่จะหวนกลับมาพบได้อีก ยิ่งย้อนคิดถึงการยุบ เลิก ควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก ย่อมมีผลต่อวัฒนธรรม ประเพณี ความผูกพันกับบ้านเกิดจะเป็นเช่นไร ทุกอย่างคงไม่เหมือนเดิม ดังนั้นการลาจากครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยน้ำตา ท่วมท้นไปทั้งโรงเรียน เพราะความผูกพันระหว่าครูคนหนึ่งบนดอยสูงกับบรรดาลูกศิษย์เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
ก็ยากเกินทำใจฝืน ครูสาวโพสต์ซึ้ง จากคนเคยมีทัศนคติติดลบ เมื่อถึงนาทีลาถึงกับน้ำตาอาบแก้ม
โดยเธอระบุความรู้สึกบนเฟซบุ๊ก ว่า ...
ภาพน้ำตาแห่งความผูกพัน!ครูสาวอำลาศิษย์บ้านแม่ลิด หลังสอนนานร่วม 5 ปี
หมายเหตุ: โรงเรียนบ้านแม่ลิด ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ระยะทางจากโรงเรียนถึงเขตพื้นที่การศึกษา 45 กม. มีเด็กอนุบาล 1-3 จำนวน 45 คน ระดับประถมศึกษา ป.1-ป.6 จำนวน 112 คน และมัธยมต้น ม1-ม.3 จำนวน 98 คน รวม 255 คน มีครูประจำการ 13 คน ครูผู้ช่วย 2 คน ลูกจ้างประจำ 1 คน พนักงานราชการ 1 คน ลูกจ้างชั่วคราว 1 คน รวมข้อมูลทั้งหมด ณ วันที่ 18 กรกฏาคม 2563
เสวนากับบรรณาธิการ <คิดนอกกรอบ : edunewssiam
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน : Tulacom@gmail.com
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)