นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ได้เห็นชอบการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่เป็นโรงเรียนเอกชนประเภทอาชีวศึกษา
โดยนักเรียนนักศึกษาพิการแต่ละคนจะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นจากเดิม 16,552.50-35,932.50 บาท เพิ่มเป็น 32,540-51,935 บาท ขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา ประเภทการเรียนและหลักสูตรการเรียน โดยเฉลี่ยคิดเป็นเงินอุดนหนุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 35% จากฐานเดิม
ในปัจจุบัน สช.มีนักเรียนพิการทั้งอยู่ในโรงเรียนการศึกษาพิเศษ และโรงเรียนสามัญทั่วไป จำนวน 4,359 คน โดยข้อมูลเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนพิการพบว่า มีการเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการปีละประมาณ 100,613,194 บาท
หากมีการปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการตามที่เสนอขอ จะใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 30 ล้านบาท
ขณะที่ในส่วนของโรงเรียนเอกชนประเภทอาชีวศึกษานั้น ข้อมูลเมื่อปี 2563 มีนักศึกษาพิการระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ได้รับเงินอุดหนุนรวม 342 คน เบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักศึกษาพิการปีละประมาณ 10 ล้านบาท
หากมีการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักศึกษาพิการตามที่เสนอขอ จะต้องใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 7 ล้านบาท
ซึ่งในการปรับเพิ่มเงินงบประมาณดังกล่าว จะเป็นจำนวนงบประมาณที่สามารถบริหารจัดการกับวงเงินงบฯทั้งหมดในภาพรวมของกระทรวงศึกษาธิการได้
รมช.ศธ.กล่าวด้วยว่า หากไม่มีการปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนนักเรียนนักศึกษาพิการดังกล่าวนี้ อาจทำให้โรงเรียนเอกชนไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาพิเศษได้ ต้องหยุดกิจการหรืองดรับนักเรียนนักศึกษาพิการ เกิดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงบริการจากรัฐ และขาดความเสมอภาคทางการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับผู้พิการ
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)
